Investing.com - เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอีกครั้งแต่พันธบัตรรัฐบาลกลับปรับขึ้น เนื่องมาจากการผสมผสานกันระหว่างความกังวลต่อสงครามการค้า ความขัดแย้งกลางเมืองฮ่องกง และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวมที่น่ากังวล
ดัชนี S&P 500 ปรับลง 1.23% ส่วนดัชนี อุตสาหกรรม Dow Jones ขยับลง 1.48% และดัชนี Nasdaq Composite ปรับลง 1.20% รวมถึงดัชนี Nasdaq 100 ที่ประกอบไปด้วยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ก็ขยับลง 1.1%
ดัชนี Dow สูญเสียสูงสุดถึง 462 จุด ก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มทยอยเข้าซื้อเมื่อถึงระดับราคาที่ต่ำ ทำให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นมา
ถือว่าดัชนีหลักต่าง ๆ ได้ทรุดตัวลงมาแล้วกว่า 5% จากจุดสูงสุดที่เคยทำได้ในเดือนกรกฎาคม รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวก็ย่อตัวลง โดยส่วนต่างระหว่าง ตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ แบบอายุสิบปีและแบบอายุสองปี ได้ขยับเข้าหากันจนเหลือส่วนต่างที่น้อยที่สุดเพียง 6 จุด ซึ่งเป็นส่วนต่างที่น้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ส่วนทางด้านตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ แบบอายุสิบปีก็ขยับลง 1.64% สู่ระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 เลยทีเดียว
ส่วนต่างของพันธบัตรรัฐบาลที่แคบลง ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลที่มากขึ้นว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะดำเนินต่อไป และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกไปเรื่อย ๆ อีกด้วย โดยนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs (NYSE:GS) ได้กล่าวไว้เมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขาไม่คิดว่าความไม่ลงรอยของทั้งสองฝ่ายจะคลี่คลายก่อนการเลือกตั้งปี 2020
ทางฝั่งจีนก็ประสบปัญหาจากการประท้วงในฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง และยังมีความเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ว่ารัฐบาลจีนจะต้องส่งกองกำลังทหารเข้าไปยังฮ่องกงเพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างแน่นอน