📈 คุณจะเริ่มลงทุนอย่างจริงจังในปี 2025 ไหม? เริ่มต้นก้าวแรกพร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับสมาชิก InvestingProรับส่วนลด

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มเบาบางช่วงเข้าสู่วันหยุดเทศกาลปีใหม่

เผยแพร่ 30/12/2567 16:40
© Reuters.  (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มเบาบางช่วงเข้าสู่วันหยุดเทศกาลปีใหม่
SETI
-

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่ และเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่เชื่อว่าจะชะลอลงทุนทำให้การซื้อขายคงไม่คึกคัก ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยในและต่างประเทศเพิ่มเติมในช่วงวันทำการสุดท้ายของปี

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบยังไม่มีปัจจัยใหม่เช่นกัน โดยให้แนวต้าน 1,410 จุด แนวรับ 1,390 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,992.21 จุด ลดลง 333.59 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,970.84 จุด ลดลง 66.75 จุด หรือ -1.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,722.03 จุด ลดลง 298.33 หรือ -1.49%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 40,325.78 จุด เพิ่มขึ้น 44.62 จุด หรือ +0.11% แต่หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลง 105.95 จุด หรือ 0.26% แตะที่ระดับ 40,175.21 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ธ.ค.) ที่ 1,401.46 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด (+0.26%) มูลค่าซื้อขาย 29,955.99 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (27 ธ.ค) 78.50 ล้านบาท

- ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (27 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ระดับ 70.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ธ.ค.) อยู่ที่ 3.64 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทส่งท้ายปีเปิด 34.03 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย รับบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า

- จับตา ครม.เตรียมพิจารณาร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเดือน ม.ค.นี้ แฉสาระสำคัญขององค์ประกอบ "ไม่ตรงปก" ตามที่ได้มีการศึกษาไว้ แต่เน้นกาสิโนเป็นหลัก แถมเขียนแบบ "ตีเช็คเปล่า" ให้บอร์ดนโยบาย ที่มีนายกฯ เป็นประธานมีอำนาจอย่างเต็มที่ หวั่นเอื้อกลุ่มทุนในเครือข่าย และจะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ก๊วนนักการเมืองโกง

- "ซีอีโอ" บิ๊กคอร์ป มองเศรษฐกิจปี 2568 จับตาภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายทรัมป์ 2.0 สินค้าจีนทะลัก "เอสซีจี-บ้านปู" กอดกระแสเงินสดรับมือเศรษฐกิจไม่ฟื้น ปรับแผนธุรกิจสู้กีดกันการค้า "หอการค้าส.อ.ท." ชี้หนี้ครัวเรือน-นโยบายทรัมป์เสี่ยง "แบงก์กรุงเทพ" ห่วงความผันผวนต่อเนื่องแต่ยังมีโอกาส จากการเคลื่อนย้ายทุน และไทยคงศูนย์กลางการลงทุนใหม่

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่ม นักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-27 ธันวาคม 2567 พบว่าสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 47,925.14 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 277.21 ล้านบาทนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 147,579.47 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 99,931.54 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

- TIDLOR (กสิกรไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท มองเช็งบวกจากหลายปัจจัย ได้แก่ จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.438 บาทต่อ ขึ้น XD วันที่ 6 ม.ค.68 แรงหนุนจากขึ้นค่าแรงปี 68 และเร่งจัดเก็บหนี้ในไตรมาส 4/67 หลังปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ตั้งแต่ปี 66 ส่งผลให้แนวโน้มดีขึ้น 4/67 คาดสินเชื่อปี 68 โต 10-15% ขณะที่การเติบโตของรายได้ประกันช่วยหนุนการฟื้นตัวของ ROE ตั้งแต่ปี 68 อีกทั้งบอนด์ยีลด์ไทย 10 ปีลดลงมาที่ 2.26% ช่วยหนุนการเก็งกำไรกลุ่มการเงิน

- NSL (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 43 บาท โมเมนตัมกำไร Q4/67 แข็งแกร่งต่อเนื่อง คาดโตทั้ง q-q, y-y และสามารถทำ new high จากปัจจัยฤดูกาล และสินค้าใหม่ๆ ได้รับการตอบรับดี เช่น ช็อคโกแลตดูไบของ Bake a Wish ขณะที่ บ.ลูกทยอยขาดทุนลดลง คาดกำไรปี 67 +57% y-y เป็น 523 ล้านบาท และปี 68 +13% y-y เป็น 591 ล้านบาท ปัจจุบันยังมี 2025E P/E เพียง 16 เท่า

- CBG (คิงส์ฟอร์ด) แนะนำ "ซื้อ" เป้าหมาย IAA Consensus 92.50 บาท กำไรสุทธิงวด Q3/67 อยู่ที่ 734 ล้านบาท เติบโต +7%QoQ, +40%YoY ได้แรงหนุนจากรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายมาร์เก็ตแชร์ในประเทศ energy drink และรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายสุราข้าวหอม-เบียร์คาราบาว ประกอบกับต้นทุนเศษแก้ว-พลังงานลดลงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แนวโน้ม Q4/67 คาดกำไรโตได้ต่อ QoQ, YoY โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายโต +20% ในปี 68 คาดมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 26% ในสิ้นปี และ 29% ในปีหน้า ผ่านกลยุทธ์เดิมราคาขาย 10 บาท/ขวด ประเมินแนวโน้มต้นทุนการผลิตลดลงตามวัตถุดิบและการประหยัดต่อขนาด ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท +46%YoY และ 3.2 พันล้านบาท +13%YoY ยังมี upside จากการกลับไปทำตลาดในจีน

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย