โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพุธที่ 2 กันยายนมีดังต่อไปนี้
1. ตัวเลขการจ้างงานจาก ADP
เศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นที่น่าจับตาอีกครั้ง โดย ADP จะรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือนสิงหาคมในวันนี้
ผลคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์คาดว่าการจ้างงานจะสูงขึ้น 957,000 ราย สูงขึ้นอย่างมากจากเดือนกรกฎาคม 167,000 รายเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองที่ชะลอตัวลงในภูมิภาคทางตอนใต้และตะวันตกของสหรัฐ ทว่าอัตราการจ้างงานปัจจุบันก็ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดถึง 12 ล้านราย เพียงแค่สองเดือนล่วงหน้าก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ตัวเลขการจ้างงานของ ADP จะรายงานออกมาในเวลา 8:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1215 GMT) ตามมาด้วยยอดคำสั่งซื้อโรงงานประจำเดือนกรกฎาคมในเวลา 10:00 น. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige book) ในเวลา 16:00 น.
2. มนูชินคัดค้านข้อเสนอของเปโลซี
สมาชิกเฟดหลายท่านจะออกมาให้คำกล่าวในวันนี้ โดยประธานเฟดประจำนิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียมส์ จะมีกำหนดการให้คำกล่าวในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ประธานเฟดประจำคลีฟแลนด์ ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ให้คำกล่าวในเวลา 12:00 น. และประธานเฟดประจำมินเนโซตา นายนีล คัชคารี ให้คำกล่าวในเวลา 14:00 น.
อย่างไรก็ตาม ตลาดจะคอยจับตาปฏิกิริยาความคืบหน้าจากคณะรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐครั้งต่อไป
เมื่อคืนนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ นายสตีเวน มนูชิน ได้คัดค้านข้อเสนอร่างนโยบาย 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของแนนซี เปโลซี โฆษกประจำสภาสหรัฐ ซึ่งเปโลซีเคยชี้ว่าทั้งสองฝ่ายยังคงมี "ความไม่ลงรอยกันอย่างยิ่ง"
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ตลาดหุ้นเตรียมปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ขานรับจากการที่สภาและวุฒิสภาสหรัฐกลับมาเจรจากันอีกครั้งเกี่ยวกับนโยบายเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้าดีดขึ้น 188 จุดหรือ 0.7% ขณะที่สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าก็ขยับขึ้นในลักษณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าดีดขึ้น 1.0%
Macy’s จะรายงานผลประกอบการก่อนเวลาตลาดปิดในวันนี้และคาดว่าจะขาดทุน $1.80 ต่อหุ้น ส่วน AT&T ก็จะได้รับความสนใจจากตลาดเมื่อ Wall Street Journal รายงานว่าบริษัทกำลังวางแผนที่จะขายธุรกิจโฆษณาดิจิทัล Xandr เพียงไม่กี่วันหลังจากมีรายงานว่าอาจมีการขาย DirecTV ด้วย
4. เศรษฐกิจออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ประเทศออสเตรเลียได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่สองของปี 2020 ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในระยะเวลากว่า 30 ปี
เศรษฐกิจออสเตรเลียในไตรมาสที่สองทรุดตัวลง 7.0% เนื่องจากอุปสงค์การซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ แร่เหล็กและถ่านหินจากจีนที่ลดลง โดยออสเตรเลียได้พึ่งพาอุปสงค์การซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากจีนมาเป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว
ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับไม่ได้กดดันค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแต่อย่างใด โดยค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้ทะยานขึ้นมาถึง 29% จากระดับต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมเมื่อซื้อขายคู่กับดอลลาร์สหรัฐและย่อตัวลงเพียง 0.4% ภายหลังจากการรายงานข้อมูลดังกล่าว และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบสองปี
5. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐช่วยหนุนราคาน้ำมัน
สหรัฐจะรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ เพียงหนึ่งวันให้หลังจากที่สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ที่แล้วที่ลดลงอย่างฉับพลัน
คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐอย่างเป็นทางการจะลดลง 1.89 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐคาดว่าจะลดลง 3.04 ล้านบาร์เรล เนื่องจากผู้ค้าปลีกน้ำมันจำเป็นต้องกักตุนน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันที่ปิดทำการเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนลอร่า
ตัวเลขจาก API เมื่อวานนี้ได้คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐจะลดลง 6.36 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นตัวเลขที่เป็นแรงหนุนให้แก่ทั้งสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบสหรัฐและสัญญาเบรนท์ โดยทั้งสองสัญญาปรับขึ้น 0.3% และ 0.2% ตามลำดับเมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก