InfoQuest - ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่รัฐบาลจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,360.43 จุด ลดลง 488.71 จุด หรือ -1.23% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,057.69 จุด ลดลง 339.36 จุด หรือ -1.66% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,409.87 จุด ลดลง 51.63 จุด หรือ -1.49%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดปรับตัวลง 0.69% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 0.23%
รัฐบาลจีนได้จัดประชุมคณะทำงานว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจของจีน หรือ Central Economic Work Conference ในวันพุธและวันพฤหัสบดี (11-12 ธ.ค.) โดยที่ประชุมส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการกู้ยืมและการใช้จ่ายของภาครัฐในปี 2568 ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายให้มุ่งเน้นไปที่การบริโภค ซึ่งเป็นความพยายามที่จะแก้ไขจุดอ่อนของเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากมาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากที่ประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของจีนเพียงแค่นำเสนอแนวทางนโยบายอย่างกว้าง ๆ และขาดรายละเอียดที่เป็นรูปธรรมของนโยบาย โดยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง เช่น การกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจหรืองบประมาณของรัฐบาลนั้น จะมีการเปิดเผยในการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนในเดือนมี.ค. ปีหน้าเท่านั้น
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 98% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันดังกล่าว แต่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค. ปีหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาเรียกร้องให้คณะกรรมการเฟดใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง