โดย Liz Moyer
Investing.com -- ภาพรวมของสามประเด็นหลักฝั่งสหรัฐที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. Best Buy เป็นหนึ่งในบริษัทกิจการค้าปลีกที่ทำผลงานได้ดีที่สุด
บริษัทค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ Best Buy Co Inc (NYSE:BBY) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเนื่องจากการกักตัวอยู่บ้านทำให้อุปสงค์การซื้อแล็ปท็อปและอุปกรณ์อื่น ๆ สูงขึ้น โดยอ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมาคาดว่าจะมีกำไร 99 เซนต์ต่อหุ้นและมีรายได้ 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีกำไร 67 เซนต์ต่อหุ้น
ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 33% และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งเมื่อวานนี้ที่ $119.48 ทั้งนี้ Raymond James ได้เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทที่ $135 และเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพการทำตามเป้าหมายที่แข็งแกร่งและความสามารถในการครองส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทด้วย
2. Nordstrom คาดว่าจะเป็นไปในทิศตรงกันข้ามกับกิจการค้าปลีกส่วนใหญ่
ตลาดมีความคาดหวังที่ค่อนข้างต่ำสำหรับ Nordstrom Inc (NYSE:JWN) ซึ่งจะรายงานผลประกอบการในวันนี้และนักวิเคราะห์คาดว่าจะขาดทุนต่อหุ้น 1.50 และมีรายได้ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายได้ในไตรมาสก่อนหน้านี้ออกมาดีเกินคาด ทว่าแนวโน้มระยะยาวได้แสดงให้เห็นว่าลูกค้าเริ่มไม่จับจ่ายในร้านค้าทั่วไปอย่าง Nordstrom และ Macy’s Inc (NYSE:M) และจึงเป็นผลดีสำหรับ Target Corporation (NYSE:TGT) รวมทั้งเครือบริษัทต่าง ๆ และ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) โดยหุ้นของ Nordstrom ถล่มลงมา 62% แล้วในปีนี้ แต่ยังคงทะยานขึ้นมาถึง 7% เมื่อวันจันทร์
และในวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการของ Urban Outfitters Inc (NASDAQ:URBN) และ Children's Place ด้วย
3. จับตาตลาดพลังงานขณะพายุเตรียมเข้าชายฝั่งสหรัฐ
ตลาดพลังงานดูเหมือนจะมีแววสดใสเมื่อวานนี้หลังจากปรับตัวขึ้นมา 2.5% ทว่าปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดพลังงานในวันนี้คือพายุที่กำลังมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคชายฝั่งสหรัฐซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินงานของธุรกิจพลังงานสหรัฐหลายราย
พายุโซนร้อนมาร์โคอาจไม่รุนแรงเท่าพายุลอร่าที่สะสมกำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะกลายเป็นเฮอร์ริเคนลอร่าในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์นี้ ทว่าพายุทั้งสองลูกไม่น่าจะพัดเข้าชายฝั่งในวันเดียวกันและบนเส้นทางเดียวกัน ทั้งนี้การดำเนินงานของธุรกิจน้ำมันและเคมีได้ปิดตัวลงล่วงหน้าก่อนพายุเข้าแล้ว และสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าพายุอาจส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐลดลงถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ดังนั้นเนื่องจากกำลังการผลิตที่ลดลงจึงทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นแม้ภาพรวมของอุปสงค์ยังคลุมเครือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ดีดขึ้น 0.14% เมื่อเวลา 15:41 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก เท่ากับ $42.40 ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ บวกขึ้น 1.34% เท่ากับ $45.53 ต่อบาร์เรล