InfoQuest - ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงในวันนี้ (11 พ.ย.) หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากกว่าคาดในเดือนต.ค. ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,347.79 จุด ลดลง 152.58 จุด หรือ -0.39%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,288.99 จุด ร่วงลง 439.20 จุด หรือ -2.12% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,449.70 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ร่วงลง 1% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.43%
รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเวลา 5 ปีในวงเงิน 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.) เพื่อรับมือกับปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางรายไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้
นอกจากนี้ จีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนรายงานเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอลงหลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า CPI เดือนต.ค.อาจจะทรงตัวเท่ากับในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลง 2.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 25 ติดต่อกัน และปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.5%