โดย Liz Moyer
Investing.com -- ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. Tesla (NASDAQ:TSLA) จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่
หุ้น Tesla ปิดบวก 1.5% เมื่อคืนนี้ และทะยานขึ้น 6% หลังเวลาซื้อขาย แต่จะยังปรับตัวขึ้นต่อไปอีกหรือไม่
เมื่อวานนี้หลังเวลาตลาดปิดบริษัทได้ออกมารายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ทำกำไรได้เป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกันแล้ว จากที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าบริษัทจะขาดทุน 19 เซนต์ต่อหุ้นและจะมีรายได้ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
หุ้นของบริษัทได้ปรับตัวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยได้ทะยานขึ้นถึง 280% สำหรับปีนี้ แม้ผู้ขายชอร์ตบางส่วนที่รอทำกำไรจากขาลงจะเชื่อว่าหุ้น Tesla กำลังที่จะกลับตัวแล้ว แต่ผลกำไรที่ออกมาในไตรมาสนี้เป็นปัจจัยยสำคัญทำให้หุ้นของบริษัทพร้อมที่จะเข้าร่วมดัชนี S&P 500 แล้ว และหากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปอีก
2. ผลประกอบการสายการบินเน้นย้ำการทรุดตัวลงของธุรกิจการท่องเที่ยว
หุ้น Southwest Airlines Company (NYSE:LUV) ปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ล่วงหน้าก่อนการรายงานผลประกอบการในช่วงเช้า หลังจากช่วงที่ผ่านมานักวิเคราะห์ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานท่ามกลางภาพรวมที่ย่ำแย่ของธุรกิจสายการบิน
การล็อกดาวน์เนื่องจากโควิด-19 ได้ส่งผลให้มีการบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทาง และสายการบินต่าง ๆ ก็เตรียมรับมือกับสภาพดังกล่าวไปอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ United Airlines Holdings Inc (NASDAQ:UAL) ได้รายงานว่าสายการบินขาดทุนถึง 1.62 พันล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากพิษโควิด-19
โดยหุ้น U.S. Global Jets ETF (NYSE:JETS) ทรุดตัวลงมาถึง 48.7% แล้วในปีนี้
ทั้งนี้ผลคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า Southwest จะขาดทุน $2.61 ต่อหุ้นและมีรายได้ 920 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ขณะที่วุฒิสภากำลังพิจารณายืดเวลาเยียวยาตลาดแรงงาน
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ประจำสัปดาห์ที่แล้วและ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง จะรายงานออกมาในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT) โดยแนวโน้มรายสัปดาห์เริ่มพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของตลาดแรงงานเมื่อเดือนมีนาคม แต่ถึงกระนั้นขณะนี้ก็ยังมียอดผู้ว่างงานมากถึงหลายสิบล้านรายในสหรัฐ และอัตราการว่างงานยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อวานนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าคณะรัฐบาลและวุฒิสภาสหรัฐกำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาการให้สวัสดิการว่างงานที่ได้มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมีนาคมเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ช่วงเวลาของการออกมาตรการครั้งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมาตรการให้เงินสนับสนุนรายสัปดาห์มูลค่า $600 ที่เพิ่มเติมจากเงินเยียวยาผู้ว่างงานที่มีอยู่แล้วจะหมดอายุลงในสัปดาห์หน้า ดังนั้นสภาคองเกรสจึงต้องเร่งมือเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิครั้งใหม่ แต่สถานการณ์ขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าสภาจะสามารถออกมาตรการได้ภายในสิ้นเดือนนี้หรือไม่