Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเย็นวันอาทิตย์ โดยตลาดกำลังจับตามองผลประกอบการที่สำคัญของภาคเทคโนโลยีและกลุ่มอื่น ๆ ที่จะประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
หุ้นฟิวเจอร์สทรงตัวหลังจากที่วอลล์สตรีทปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนียังคงอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดล่าสุด ท่ามกลางสัญญาณความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการที่ดี
แต่แนวโน้มของตลาดเริ่มชะลอตัว เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังเข้มข้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น อีกทั้งการประเมินมูลค่าหุ้นในตลาดสหรัฐที่สูงมากก็เพิ่มโอกาสที่จะเกิดการขาดทุนในระยะสั้น
S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.1% มาเป็น 5,914.50 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.2% มาเป็น 20,519.75 จุด ณ เวลา 08:15 น. (GMT+7) ด้าน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ก็ขยับขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 43,565.0 จุด
จับตาผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้
บริษัทที่สำคัญที่สุดที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้คือ Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ซึ่งผลประกอบการจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากการเปิดตัวรถแท็กซี่หุ่นยนต์ (robotaxi) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนผิดหวัง
Tesla ยังพลาดเป้าหมายการส่งมอบในไตรมาสที่สาม ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ผลประกอบการของไตรมาสนี้อ่อนแอลง
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ก็กำลังจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้เช่นกัน หลังจากที่ ASML (NASDAQ:ASML) และ TSMC (NYSE:TSM) ซึ่งเป็นบริษัทสำคัญของอุตสาหกรรม ได้ให้สัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับความต้องการของตลาด
บริษัท Texas Instruments (NASDAQ:TXN) Western Digital Corporation (NASDAQ:WDC) และ Lam Research Corp (NASDAQ:LRCX) ถือเป็นบริษัทชิปสำคัญที่จะมีการเปิดเผยรายงาน ส่วนในกลุ่มเทคโนโลยีโดยทั่วไป IBM (NYSE:IBM) ก็จะประกาศผลในสัปดาห์นี้เช่นกัน
นอกจากกลุ่มเทคโนโลยีแล้ว กลุ่มบริษัทด้านกลาโหมรายใหญ่ก็จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้เช่นกัน ได้แก่ Rtx Corp (NYSE:RTX) Lockheed Martin (NYSE:LMT) L3Harris Technologies Inc (NYSE:LHX) General Dynamics (NYSE:GD) และ Northrop Grumman (NYSE:NOC)
ด้านบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม เช่น T-Mobile US Inc (NASDAQ:TMUS) Verizon Communications Inc (NYSE:VZ) และ AT&T Inc (NYSE:T) ก็จะรายงานผลประกอบการเช่นกัน
บริษัทผลิตเครื่องบิน Boeing Co (NYSE:BA) มีกำหนดรายงานผลประกอบการในวันพุธนี้ โดยนักลงทุนจะจับตาสถานะเงินสดของบริษัทอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบริษัทกำลังเผชิญกับการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ
วอลล์สตรีทยังคงใกล้จุดสูงสุด
ผลประกอบการของธนาคารและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีของวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุดหลายครั้ง โดยผลประกอบการที่จะประกาศในเร็ว ๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดว่าการเติบโตนี้จะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% มาอยู่ที่ 5,864.67 จุดในวันศุกร์ ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 18,489.67 จุด ส่วน ดาวโจนส์ ขยับขึ้น 0.1% แตะระดับสูงสุดที่ 43,257.91 จุด
นอกจากรายงานผลประกอบการแล้ว ตลาดยังต้องจับตาดอกเบี้ยในสหรัฐและการเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดวอลล์สตรีทในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า