InfoQuest - ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ (23 ส.ค.) หลังจากความกังวลเรื่องเงินเยนแข็งค่าเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากนายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่าจะจับตาดูสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,364.27 จุด เพิ่มขึ้น 153.26 จุด หรือ +0.40%
หุ้นบวกนำโดยกลุ่มสินเชื่อผู้บริโภค, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มก่อสร้าง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงชั่วคราวสู่กรอบล่างของ 145 เยนในตลาดโตเกียว สืบเนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อเงินเยน หลังจากที่นายอุเอดะส่งสัญญาณว่า BOJ อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต พร้อมทั้งยืนยันว่าจะจับตาดูสถานการณ์ตลาดการเงินอย่างใกล้ชิดหลังจากที่เกิดความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. BOJ ประกาศขึ้นดอกเบี้ย และต่อมานายอุเอดะก็ออกมาแถลงว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นมาก และเมื่อประกอบกับความกังวลของนักลงทุนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยด้วยแล้วนั้น สองปัจจัยนี้จึงเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถูกเทขายอย่างหนัก
สำหรับภาวะตลาดช่วงเช้าวันนี้ ตลาดหุ้นปิดลบเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายตลาดพลิกกลับมาอยู่ในแดนบวก โดยเป็นผลมาจากนักลงทุนตีความถ้อยแถลงล่าสุดของนายอุเอดะในแง่บวก
นักวิเคราะห์มองว่า คำพูดของนายอุเอดะช่วยคลายความกังวลเรื่องความผันผวนของตลาดเงินตราในระยะสั้น ส่งผลให้เกิดโอกาสในการซื้อหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นและบริษัทกลุ่มส่งออก ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนลงเมื่อนำผลกำไรจากต่างประเทศกลับเข้ามา
โทชิคาซึ โฮริอุจิ นักกลยุทธ์ด้านตราสารทุนจากบริษัทหลักทรัพย์ IwaiCosmo กล่าวว่า "ผู้เล่นในตลาดจับตาดูว่าค่าเงินจะตอบสนองต่อคำพูดของอุเอดะอย่างไร แต่พอเห็นว่าไม่มีอะไรใหม่ในสิ่งที่เขาพูด และตลาดเงินก็ไม่ได้ตอบสนองมากนัก ตลาดหุ้นเลยสงบลง"
อย่างไรก็ดี นิกเกอิปรับตัวขึ้นแบบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณยืนยันว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ที่ 0.25% หรือลดมากกว่านั้นคือ 0.50% กันแน่
คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระให้ความเห็นว่า "ถ้านักลงทุนในตลาดมองว่ามีโอกาสที่จะมีการลดดอกเบี้ยลงมากกว่าที่คาด ก็อาจทำให้เกิดความกังวลว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นอีก"