💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ดาวโจนส์ร้อนแรง พุ่งกว่า 600 จุดทำนิวไฮ ขานรับยอดค้าปลีก,ผลประกอบการแกร่ง

เผยแพร่ 17/07/2567 05:43
© Reuters.  ดาวโจนส์ร้อนแรง พุ่งกว่า 600 จุดทำนิวไฮ ขานรับยอดค้าปลีก,ผลประกอบการแกร่ง
DJI
-
BAC
-
MS
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 600 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับยอดค้าปลีกที่ดีกว่าคาด ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค และทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 22.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,828.55 จุด บวก 616.83 จุด หรือ 1.53%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.0% หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.3% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค.

หากไม่รวมยอดขายรถยนต์และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ในวันนี้

ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากคาดการณ์ที่ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีนโยบายที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น และส่งผลบวกต่อตลาด

นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งของนายทรัมป์จะช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุจลาจลในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในตลาด

ขณะเดียวกัน นักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าววานนี้ว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นายพาวเวลกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี (Economic Club of Washington, D.C.) เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการย้ำถ้อยแถลงที่เขากล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นักลงทุนเทน้ำหนัก 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. ขานรับถ้อยแถลงของนายพาวเวล หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนัก 6.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนดังกล่าว

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย