🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อ หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ย จับตางบแบงก์

เผยแพร่ 12/07/2567 16:35
© Reuters.  (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อ หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ย จับตางบแบงก์
USD/THB
-
SETI
-

InfoQuest - นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ เดือนมิ.ย.ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. มากขึ้น โดยล่าสุดความน่าจะเป็นมาอยู่ที่ระดับ 93.5% แล้ว เมื่อเทียบกับปลายสัปดาห์ก่อน ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 70% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์)ก็ย่อตัวลงมา คาดกระตุ้นต่อการลงทุนในภูมิภาคเอเชียวันนี้

ส่วนในประเทศติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยวันนี้ TISCO จะประกาศงบฯ เป็นตัวแรก และจะทยอยประกาศงบฯ กันตลอดทั้งสัปดาห์หน้า

ให้แนวรับไว้ที่ 1,320 จุด และแนวต้าน 1,340 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 ก.ค.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,753.75 จุด เพิ่มขึ้น 32.39 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,584.54 จุด ลดลง 49.37 จุด หรือ -0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,283.41 จุด ลดลง 364.04 จุด หรือ -1.95%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 41,668.86 จุด ลดลง 555.16 จุด หรือ -1.31% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 18,020.17 จุด เพิ่มขึ้น 187.84 จุด หรือ +1.05% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,965.61 จุด ลดลง 4.78 จุด หรือ -0.16%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ค.) 1,329.37 จุด เพิ่มขึ้น 6.09 จุด (+0.46%) มูลค่าซื้อขาย 40,340.15 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 610.85 ล้านบาท (11 ก.ค.)

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (11 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ค.) อยู่ที่ 3.49 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 36.09 แข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อนรับเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย

- "ภาคเอกชน" กังวลสถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง หลังจากคดีนายกฯ เลื่อน ส.อ.ท.ชี้สร้างความอึมครึมให้นักลงทุนไทยและต่างชาติ กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง หอการค้า ระบุความไม่แน่นอนทางการเมืองฉุดหุ้นไทย "ไพบูลย์" ห่วงการเมืองยืดเยื้อกระทบเซนติเมนต์ลงทุน "ศุภวุฒิ" ชี้ กระทบเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า "พิพัฒน์" ระบุการเมืองยืดเยื้อกดดันเศรษฐกิจฟื้นตัว

- ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย พูดชัดจะไม่รอจนเงินเฟ้อลงถึง 2% ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีสัญญาณลบมากขึ้นทั้งการจ้างงานและภาคธุรกิจที่ยื่นล้มละลาย นักวิเคราะห์ยังตั้งความหวังลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ "แบงก์ชาติ" เรียกธนาคารพาณิชย์-สมาคมธนาคารไทย เข้าหารือหลังเรียก "นอนแบงก์" เข้าหารือแล้วช่วงที่ผ่านมาแล้วสั่งเร่งปรับโครงสร้างหนี้ช่วยลูกหนี้ที่ประสบปัญหาหนี้เร่งด่วน

- "เศรษฐา" ตอบกระทู้สดฝ่ายค้าน แจงลดจำนวนคน ได้เงินดิจิทัล วอลเล็ต เหลือ 45 ล้านคน คาดจากข้อมูลแจกเงินรัฐบาลเก่า ปรับเปลี่ยนสินค้าพิสูจน์ รัฐบาลรับฟังความเห็นรอบด้าน ยัน 24 ก.ค. มีความชัดเจน ระบุมีหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันจับมือพรรคร่วม สร้างปัจจุบันที่ดีกว่า พร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต "พิธา" โยน ประชาชนประเมินนายกฯ ตอบกระทู้ ถาม "แรงค้านไร้อนาคต" หรือ "รัฐบาลไร้คำตอบ" เตือนใช้งบทำ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ให้ดี ห่วงจาก "วิกฤต" จะกลายเป็น "วิบัติ"

- ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน มิ.ย.67 ว่า ดัชนีทั้ง 2 รายการอยู่ในช่วงขาลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ลดลง 2 เดือนติดต่อกัน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง 4 เดือนติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือน ต.ค.66 ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบัน ต่ำสุดรอบ 10 เดือน ก.ย.66 เนื่องจากความเชื่อมั่น ลดลงมาจากค่าครองชีพที่อยู่ระดับสูง ทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร ค่าไฟ โดยน้ำมันเบนซิน ขึ้นมาใกล้ลิตรละ 40 บาท

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานดัชนีราคาที่ราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้น 1.5% และมีดัชนีราคาภาพรวมห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้น 1.2%

*หุ้นเด่นวันนี้

- CPAXT (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 38.00 บาท คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ดิจิตัลวอลเล็ตห้ามซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าร้านค้าปลีก และค้าส่งมากขึ้น เราคาดกำไรไตรมาส 2/2567 จะเพิ่มขึ้น YoY แต่จะลดลง QoQ เราคาดว่า CPAXT จะรายงานกำไรไตรมาส 2/2567 ที่ 2.06 พันลบ. (+36% YoY, -17% QoQ) การเติบโต YoY น่าจะได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายที่สูงขึ้นด้วยการเติบโตหลักหน่วยระดับกลางและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง การลดลง QoQ น่าจะมาจากยอดขายที่ลดลงตามฤดูกาลของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

- GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 59 บาท ระยะสั้นคาดได้ Sentiment บวกจาก Bond Yield ที่ปรับลงและค่างเนบาทที่พลิกมาแข็งค่า เบื้องต้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/67 จะเพิ่มขึ้นจากต้นทุนราคาก๊าซที่ปรับลง และกำลังผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า SPP หน่วยที่ 2 100MW ส่วนแบ่งกำไรจาก Avada จะเพิ่มขึ้นรวมถึงโรงไฟฟ้าลมไต้หวันที่เริ่มผลิตไฟตั้งแต่เดือน พ.ค. บริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิต ปัจจุบันที่ 6,757 MW จะเพิ่มเป็น 10,440 MW ในปี 2026 ผ่านการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนในไทยมี่ลุ้นได้กำลังการผลิตเพิ่มจากการเปิดประมูลการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงครึ่งหลังปี 67 ส่วนวันนี้จับตา กกพ.เคาะขึ้นค่าไฟงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 0.20-0.40 บาท/หน่วยหรือไม่

- TTB (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.10 บาท กำไรไตรมาส 2/67 คาดว่าจะรายงานการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่มฯ โดยอยู่ที่ +1%QoQ และ 17% YoY (ดีกว่ากลุ่มธนาคารที่เราคาด -6%QoQ และ -1%YoY) แรงหนุนหลักมาจาก NIM ที่สูงขึ้นและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้านกำไรต่อหุ้นในปี 67 คาดเติบโต 16%YoY มากกว่ากลุ่มฯที่คาดกำไรขยายตัว 6%YoY ช่วยหนุนต่อการจ่าย

เงินปันผลของที่สามารถจ่ายอัตราที่สูงถึง 7.4% ต่อปี เทียบกับกลุ่มที่จ่ายปันผล 7.1% โดยเราคาด TTB จะแบ่งจ่ายปันผล ในช่วง 1H67 ที่ +/-3.5% ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากคลังเตรียมจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ที่แนวทางจะใช้กองทุนเดิม ซึ่งเราคาดว่า TTB จะเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ เพราะพบว่ากองทุนวายุภักษ์ปัจจุบันมีการถือ TTB ในสัดส่วน 5.19%ของ NAV (เป็นอันดับ 3)

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย