💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ดาวโจนส์พลิกร่วงกว่า 100 จุด กังวลศก.ซบ หลังจ้างงานชะลอตัว,ว่างงานพุ่ง

เผยแพร่ 06/07/2567 04:35
© Reuters.  ดาวโจนส์พลิกร่วงกว่า 100 จุด กังวลศก.ซบ หลังจ้างงานชะลอตัว,ว่างงานพุ่ง
US500
-
DJI
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรชะลอตัวในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานสูงกว่าคาด

ณ เวลา 21.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,190.91 จุด ลบ 117.09 จุด หรือ 0.3%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับตัวเลขจ้างงานดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนมองว่าตัวเลขตลาดแรงงานที่อ่อนแอจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 218,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.

ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.0%

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.สู่ระดับ 218,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่ง

"แม้ว่าในด้านหนึ่ง การปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนพ.ค.และการดีดตัวขึ้นของอัตราว่างงานช่วยเพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แต่ตัวเลขเดียวกันนี้ก็ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งข้อมูลแรงงานในวันนี้บ่งชี้ถึงภาวะอ่อนตัวของเศรษฐกิจ" นางซีมา ชาห์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Principal Asset Management กล่าว

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 71.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.9% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 46.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 43.4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 9 ก.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 ก.ค.

แถลงการณ์ดังกล่าวของนายพาวเวลจะมีขึ้น ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย