Evercore ISI กล่าวในบันทึกถึงลูกค้าเมื่อวันพุธว่า Nvidia (NASDAQ:NVDA) ไม่ใช่ศูนย์กลางของตลาดหุ้นอีกต่อไป แม้ว่าจะมีการแรลลี่อย่างน่าทึ่งหลังรายงานผลประกอบการ
หลังจากที่ Nvidia รายงานผลประกอบการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม หุ้นก็พุ่งขึ้นถึงเกือบ 20% ภายในสามวัน ซึ่งในอดีตจะส่งผลให้ S&P 500 ปรับตัวขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ S&P 500 กลับยังคงปรับลดลง ซึ่งถือเป็นการแยกตัวออกจากกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“แม้ว่าจะมีหุ้นที่ “สำคัญ” อยู่หลายตัว เช่น Apple Inc (NASDAQ:AAPL) Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) หรือ NVDA ที่เพิ่มขึ้น 20% ในสามวัน แต่จากที่กล่าวมาทั้งหมดหุ้นเหล่านั้นยังไม่ได้เป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากถึงห้าอันดับแรกใน S&P 500 หรือแม้แต่การปรับขึ้นเหล่านั้นจะทำให้ S&P 500 ขยับขึ้นพร้อมกัน” นักวิเคราะห์ของ Evercore เขียน
“SPX ไม่เคยปรับลดลงพร้อมกับการเพิ่มถึงกว่าขึ้น 20% หลังการเปิดเผยผลประกอบการ” พวกเขาเสริม
การแยกตัวดังกล่าวยิ่งน่าทึ่งมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่สูงระหว่าง Nvidia กับ S&P 500 ซึ่งอยู่ที่ 0.95 ในปีที่ผ่านมา และเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เมื่อความสัมพันธ์แฝงระหว่างหุ้นขนาดใหญ่นั้นลดลงเหลือเพียง 12.04 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
ตามข้อมูลของ Evercore สิ่งนี้ยิ่งยืนยันแนวคิดของ “ตลาดที่เลือกหุ้น” ซึ่งในอดีตจุดต่ำสุดของความสัมพันธ์ดังกล่าวมักจะนำไปสู่การปรับฐานตลาดอย่างมีนัยสำคัญ แต่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่ผ่านมากลับถือเป็นข้อยกเว้น
การพุ่งขึ้นของ NVDA ภายในสามวันขณะที่ S&P 500 ลดลงนั้นถือเป็น “ตัวเร่งให้เกิดความเคลื่อนไหวที่มากขึ้นใน S&P 500 ก่อนที่จะมีตัวเร่งอื่น ๆ” นักวิเคราะห์ของ Evercore กล่าวต่อ ตัวเร่งเหตุการณ์เหล่านี้ยังรวมไปถึงคำตัดสินการพิจารณาคดีของทรัมป์ รายงานเงินเฟ้อ PCE การแบ่งหุ้นของ Nvidia รายงาน CPI และการประชุม FOMC ในเดือนหน้า