📈 คุณจะเริ่มลงทุนอย่างจริงจังในปี 2025 ไหม? เริ่มต้นก้าวแรกพร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับสมาชิก InvestingProรับส่วนลด

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดประเมินแนวโน้มปี 2025

เผยแพร่ 02/01/2568 10:41
© Reuters.
LCO
-
CL
-

Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ หลังข้อมูลชี้ว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงระมัดระวังขณะที่พิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2025

ณ เวลา 08:39 น. (GMT+7) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 75.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้าน น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 71.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในปี 2024 ราคาน้ำมันปิดตลาดด้วยการขาดทุนในระดับปานกลาง และนักลงทุนต่างเริ่มต้นปี 2025 ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับตลาดน้ำมันที่อาจมีอุปทานเกินดุลในปีนี้

API รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังในสหรัฐลดลง

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน รายงานเมื่อวันอังคารว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

การลดลงของปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐบ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากเมื่อปริมาณสำรองลดลงทำให้นักลงทุนมักจะกลับเข้าซื้อในตลาดน้ำมันและผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสถิติของกระทรวงพลังงานสหรัฐ จะเผยแพร่ข้อมูลรายสัปดาห์ในวันนี้

นักลงทุนต่างก็กำลังรอคอยเพื่อดูว่ารายงานสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการจะยืนยันการลดลงดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับพลวัตของอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมันดิบสหรัฐ ซึ่งมีผลต่อการกำหนดราคาและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ

ตลาดน้ำมันเตรียมรับมือกับอุปทานล้นเกินในปี 2025

แม้ว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันจะลดลง แต่ข้อมูลล่าสุดจาก EIA ก็ชี้ให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนนโยบายที่เน้นการเพิ่มการผลิตในประเทศ

ขณะเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าตลาดน้ำมันจะมีอุปทานเพียงพอ แม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม

โดยแนวโน้มความต้องการน้ำมันจะขึ้นอยู่กับความหวังที่ว่าจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของตนได้ โดยเฉพาะในขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นเกินที่อาจเกิดจากการเพิ่มการผลิตของประเทศนอกกลุ่ม OPEC

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวในสุนทรพจน์ปีใหม่เมื่อวันอังคารว่า จีนจะใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตในปี 2025

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดน้ำมัน เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่ยังคงซบเซาอาจส่งผลต่อสมดุลทางการตลาด

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย