Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ หลังข้อมูลชี้ว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงระมัดระวังขณะที่พิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2025
ณ เวลา 08:39 น. (GMT+7) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 75.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้าน น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 71.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในปี 2024 ราคาน้ำมันปิดตลาดด้วยการขาดทุนในระดับปานกลาง และนักลงทุนต่างเริ่มต้นปี 2025 ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับตลาดน้ำมันที่อาจมีอุปทานเกินดุลในปีนี้
API รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังในสหรัฐลดลง
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน รายงานเมื่อวันอังคารว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การลดลงของปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐบ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลดีต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากเมื่อปริมาณสำรองลดลงทำให้นักลงทุนมักจะกลับเข้าซื้อในตลาดน้ำมันและผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสถิติของกระทรวงพลังงานสหรัฐ จะเผยแพร่ข้อมูลรายสัปดาห์ในวันนี้
นักลงทุนต่างก็กำลังรอคอยเพื่อดูว่ารายงานสินค้าคงคลังน้ำมันอย่างเป็นทางการจะยืนยันการลดลงดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับพลวัตของอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมันดิบสหรัฐ ซึ่งมีผลต่อการกำหนดราคาและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ
ตลาดน้ำมันเตรียมรับมือกับอุปทานล้นเกินในปี 2025
แม้ว่าปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันจะลดลง แต่ข้อมูลล่าสุดจาก EIA ก็ชี้ให้เห็นว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนนโยบายที่เน้นการเพิ่มการผลิตในประเทศ
ขณะเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าตลาดน้ำมันจะมีอุปทานเพียงพอ แม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2025 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม
โดยแนวโน้มความต้องการน้ำมันจะขึ้นอยู่กับความหวังที่ว่าจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของตนได้ โดยเฉพาะในขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นเกินที่อาจเกิดจากการเพิ่มการผลิตของประเทศนอกกลุ่ม OPEC
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวในสุนทรพจน์ปีใหม่เมื่อวันอังคารว่า จีนจะใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตในปี 2025
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดน้ำมัน เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่ยังคงซบเซาอาจส่งผลต่อสมดุลทางการตลาด