InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย
เช้านี้คาดแกว่งพักฐาน หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) พุ่งแตะ 4.7% สูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/67 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4%ขณะที่ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1/67 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4/66 ที่
ปรับตัวขึ้น 1.8% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/66 ที่เพิ่มขึ้น 2.0% อาจส่งผลต่อการเปิดเผยตัวเลข PCE เดือนมี.ค.ของสหรัฐในคืนนี้ จะออกมาสูงกว่าคาดได้ ทำให้ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนักที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยเลื่อนไปเป็นเดือน ธ.ค. แล้ว จะเดิมที่คาดเดือน ก.ย.ให้แนวรับไว้ที่ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,365-1,375 จุด แนะติดตามการเปิดเผย PCE สหรัฐในคืนนี้
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,085.80 จุด ลดลง 375.12 จุด หรือ -0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,048.42 จุด ลดลง 23.21 จุด หรือ -0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,611.76 จุด ลดลง 100.99 จุด หรือ -0.64%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 37,725.61 จุด เพิ่มขึ้น 97.13 จุด หรือ +0.26 ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 17,336.20 จุด เพิ่มขึ้น 51.66 จุด หรือ +0.30% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,054.98 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด หรือ +0.07%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 เม.ย.) 1,364.27 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด (+0.23%) มูลค่าซื้อขาย 41,468.00 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (25 เม.ย.) 1,756.90 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 เม.ย.) อยู่ที่ 3.44 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.03 อ่อนค่าเล็กน้อย ให้กรอบ 36.90-37.20 จับตาประชุม BOJ วันนี้
- "ส.ธนาคารไทย" เด้งรับนโยบายลดดอกเบี้ย MRR 0.25% เน้นลูกค้ากลุ่มเปราะบาง-บุคคล-SMEs นาน 6 เดือน เผยครอบคลุมลูกหนี้ชั้นดี 15 ธนาคาร "นายกฯ" โพสต์ขอบคุณ ชี้ช่วยเหลือภาคธุรกิจ-ปชช.โดยรวม
- "บีโอไอ" ชูไฟฟ้าสีเขียวลงทุนต่างชาติลงทุนไทย ตอบโจทย์กติกาการค้าโลก หนุนภาคธุรกิจใช้พลังงานสีเขียว 100% ดันเป้าหมายลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ "กรมโลกร้อน" ดันร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เตรียมเสนอ ครม.ภายใน 2 เดือน
- ตลท. เตรียมใช้เกณฑ์ uptick rule สำหรับ "หุ้นทุกตัว" และหุ้นที่จะ ถูก short ได้ต้องมีมาร์เก็ตแคปอย่างน้อย 7.5 พันล้าน พร้อมกับคุมหุ้นราคาร้อนแรง ด้วยระบบ Auction เริ่มปลายไตรมาส 2 นี้ มั่นใจเพิ่มความเชื่อมั่นผู้ลงทุนได้
หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 83 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ CPN ในช่วงปี 67-69 จากธุรกิจศุนย์การค้าที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อีกแรงหนุนการเติบโตจะมาจากธุรกิจ Residential ตามแผนเปิด 10 โครงการใหม่ในปี 67 ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาส 1/67 ยังแข็งแกร่ง โดย CPN มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งที่นครสวรรค์และนครปฐมในไตรมาส 1/67 และในปี 68 มีแผนเปิดเพิ่มที่กระบี่และ Dusit Central Park คาดหนุนรายได้ค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง เราคาดกำไรปกตปี 67-69 เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ราคาหุ้นเทรด PER ต่ำเพียง 17.5 เท่าเทียบกับอดีตที่กว่า 20 เท่า
- AWC (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.40 บาท กำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 5.0 พันล้านบาท,+31%YoY (มี Extra Gain ราว +3.9 พันล้านบาท) หนุนด้วย EBITDA +27%YoY โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจ Hotel (+119%YoY) และ Retail (+22%YoY) ตามการฟื้นตัวหลัง Covid-19 ส่วนผลการดำเนินงานปกติไตรมาส 1/67 นี้คาดยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากหน่วยธุรกิจ Hotel และ Retail หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยไตรมาส 1/67 ที่ 9.37 ล้านคน, +44%YoY ทั้งนี้ทางบริษัทวางเป้าในส่วนของธุรกิจ Hotel จะมี occ. Rate ที่ 75%(เท่า PreCovid-19 ปี 62 / ปี 66 occ. Rate อยูที่ 64.6%) และ ADR ที่ 5,858 บาท,+3.5%YoY(+25%เทียบ PreCovid-19 ปี 62)
- PLANB (กสิกรไทย) ซื้อ ราคาพื้นฐานที่ 9.37 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 จะอยู่ที่ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% YoY แต่ลดลง 46.1% QoQ (106% ของ core EPS ไตรมาส 1/62) จากการใช้กำลังการผลิตสื่อที่เพิ่มขึ้น กำไรปกติคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจากสถานะการแข่งขันในตลาดอื่นอกบ้านและรายไดจากธุรกิจที่ไม่ใช่สื่อนอกบ้าน เพิ่มคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" แต่คง TP ที่ 9.37 บาท เนื่องจากหุ้นปรับตัวลงสู่ระดับที่น่าสนใจ EPS ปี 67 อยู่ที่ 144% ในระดับก่อนเกิดโควิด-19 เทียบกับ EV ต่อหุ้นที่ 141%