Black Friday Sale! ประหยัด สุดคุ้ม กับ InvestingProรับส่วนลดสูงถึง 60%

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์นิ่ง ขณะวอลล์สตรีทเข้าโค้งสุดท้ายปี 2566

เผยแพร่ 28/12/2566 01:55
© Reuters.  ดาวโจนส์ฟิวเจอร์นิ่ง ขณะวอลล์สตรีทเข้าโค้งสุดท้ายปี 2566
NDX
-
US500
-
DOW
-
IXIC
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์แทบไม่ขยับ ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดฉากการซื้อขายปี 2566 ในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 18.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 3 จุด หรือ 0.01% สู่ระดับ 37,891 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 8 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%

ตลาดจับตาปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

ข้อมูลบ่งชี้ว่า ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังเงินเฟ้อชะลอตัวลง

ล่าสุด นายโรเบิร์ต แคปแลน อดีตประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเฟดต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

นายแคปแลนกล่าวว่า เฟดต้องการหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป ทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงต่อไป

"เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราเผชิญปัญหาเงินเฟ้อคือการที่เฟดใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินนานเกินไป แม้ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังดีดตัวขึ้น และผมคิดว่าเฟดไม่อยากทำผิดพลาดเหมือนกันเกี่ยวกับการใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงินนานเกินไป ขณะที่เศรษฐกิจและเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลง" นายแคปแลนกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสถานีข่าว CNBC

ทั้งนี้ การปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ในเดือนธ.ค., ไตรมาส 4 และตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นดังนี้:-

-ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนธ.ค., 12.1% ในไตรมาส 4 และ 13.3% ตั้งแต่ต้นปี 2566

-ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนธ.ค., 11.4% ในไตรมาส 4 และ 24.4% ตั้งแต่ต้นปี 2566

-ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 6% ในเดือนธ.ค., 14% ในไตรมาส 4 และ 44% ตั้งแต่ต้นปี 2566

นอกจากนี้ การทะยานขึ้น 44% ของดัชนี Nasdaq ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถือเป็นการทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายปีนับตั้งแต่ปี 2546

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย