Investing.com - หุ้นเอเชียแปซิฟิกขยับลงหลังเปิดตลาดในวันนี้ จากการที่นักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีท่าทีระมัดระวังหลังจากได้รับชุดข้อมูลเศรษฐกิจหลายฉบับ
เมื่อในเวลา 11:15 a.m. AEDT (00:15 a.m. GMT) ดัชนี S&P/ASX 200 Nikkei 225 และ KOSPI 200 ปรับลง 0.1% 0.3% และ 0.6% ตามลำดับ
ในอเมริกาเหนือ หุ้นสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันขาลงเนื่องจากตลาดดูดซับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ซึ่งส่งสัญญาณถึงผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับลง 126 จุดหรือ 0.4% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ NASDAQ คอมโพสิต ปรับลงน้อยกว่า 0.1% อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงเหลือประมาณ 4.44% ซึ่งบ่งชี้ว่าต้นทุนการกู้ยืมลดลง
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบ เบรนท์ ปรับลง 4.5% เป็น 77.52 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาทองคำ ปรับขึ้น 1.1% เป็น 1,981.00 ดอลลาร์สหรัฐ
ในตลาดพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 2 ปี ยังคงทรงตัวที่ 4.22% ในขณะที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 10 ปี ปรับลงเหลือ 4.55% ดอลลาร์ออสเตรเลีย ปรับลงเหลือ 64.63 เซ็นต์สหรัฐ จากระดับตอนปิดตลาดก่อนหน้าที่ 65.07 เซ็นต์สหรัฐ
หุ้นจีนปรับลงตอนปิดตลาด โดยน่าจะเกิดจากข้อมูลราคาบ้านในเดือนตุลาคมที่ซบเซา แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากมายและคำมั่นของจีนที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้นและกระตุ้นการบริโภค ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปรับลง 0.7% เป็น 3050.93
หุ้นฮ่องกงก็ร่วงลงในการเปิดตลาดช่วงเช้าเช่นกัน โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ปรับลง 1.3% ที่ 17839.19 ดัชนีเทคโนโลยีท้องถิ่นร่วงลง 1.5% เป็น 4,065.23
ค่าเฉลี่ยหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่นปรับลง 0.3% ปิดที่ 33424.41 ในขณะที่ดัชนี Sensex ของอินเดียปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 65982.48 ฟื้นตัวจากการขาดทุนก่อนหน้านี้
หุ้นยุโรปยังคงเคลื่อนไหวเพื่อหาทิศทางต่อไป ดัชนี STOXX Europe 600 ปรับลง 0.7% เป็น 451.27 CAC 40 ของฝรั่งเศสปรับลง 0.6% เป็น 7,168.40 ในขณะที่ DAX ของเยอรมนีปรับขึ้น 0.2% เป็น 15,786.61 ดัชนี FTSE 100 ในสหราชอาณาจักรปิดตัวลดลง 1% เหลือ 7,410 จุด โดยได้รับผลจากการปรับตัวลดลงของหุ้นที่เกี่ยวกับน้ำมัน หุ้นบริษัทขุดเหมือง และรายงานที่ดูอ่อนแอจากผู้ค้าปลีกสุดหรูอย่าง Burberry