InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,451.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด (+0.27%) มูลค่าซื้อขาย 51,227.05 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยช่วงเช้าปรับลงแรง โดยมีแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐที่ยังเร่งตัวทำจุดสูงสุดและค่าเงินบาทอ่อนค่า รวมทั้งเหตุการณ์ในสยามพารากอน อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นแรงซื้อกลับ โดยหุ้นที่หนุนตลาดวันนี้เป็นกลุ่ม Domestic ที่คาดว่าผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวได้ อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก ไอซีที และโรงพยาบาล แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนียังผันผวน นักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ ทั้งนี้ปัจจัยในประเทศต้องติดตามประเด็นความเชื่อมั่นในภาคการท่องเที่ยวและในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศไทย
SET ปิดวันนี้ที่ 1,451.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด (+0.27%) มูลค่าซื้อขาย 51,227.05 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน ช่วงเช้าดัชนีปรับลงไปกว่า 10 จุด ก่อนพลิกกลับมาบวก โดยดัชนีทำจุดสูงสุด 1,454.80 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,429.99 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 314 หลักทรัพย์ ลดลง 151 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 180 หลักทรัพย์
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยช่วงเช้าปรับลงไปกว่า 10 จุด โดยมีแรงกดดันจากอัตราแผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ที่ยังเร่งตัวทำจุดสูงสุดของปีและค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในช่วงอ่อนค่าลง รวมทั้งเหตุการณ์ที่สยามพารากอนเมื่อวานนี้ ทำให้ภาพของตลาดหุ้นไทยช่วงแรกปรับตัวลงค่อนข้างแรง อย่างไรก็ตามหลังจากปรับตัวลงเริ่มเห็นแรงซื้อกลับ โดยหุ้นที่ช่วยหนุนตลาดวันนี้เป็นหุ้นกลุ่ม Domestic ที่ตลาดมองว่าผลกระกอบการน่าจะฟื้นตัวได้ อาทิ กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก ไอซีที และโรงพยาบาล เป็นต้น ทำให้ภาพของตลาดวันนี้พลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนียังผันผวนอยู่ นักลงทุนติดตามบอนด์ยีลด์สหรัฐจะมีการหยุดการปรับขึ้นเมื่อไร โดยวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน ซึ่งนักลงทุนจับตาอยู่ โดยหากตัวเลขออกมาแกร่งกว่าคาด อาจจะต้องระมัดระวังความผันผวนที่เกี่ยวกับประเด็นบอนด์ยีลด์สูงและค่าเงินอ่อนค่า แต่หากตัวเลขไม่ดีอย่างที่คาด น่าจะทำให้ตลาดคลายความกังวลได้ และรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์อีกครั้งหนึ่ง ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ค่อนข้างผันผวน
นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศต้องติดตามประเด็นความเชื่อมั่นในภาคการท่องเที่ยวหลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศไทย โดยนักลงทุนคาดว่าจะขยายตัว 0.8% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะขยายตัว 0.7% YoY รวมทั้งการเก็งกำไรงบของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/66
โดยให้แนวต้าน 1,460 จุดและแนวรับ 1,440 - 1,430 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT (BK:AOT) มูลค่าการซื้อขาย 4,111.57 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,671.23 ล้านบาท ปิดที่ 83.75 บาท ลดลง 1.75 บาท
PTT (BK:PTT) มูลค่าการซื้อขาย 1,663.85 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL (BK:CPALL) มูลค่าการซื้อขาย 1,582.03 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,568.21 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท