หุ้นเอเชียอยู่ในกรอบแคบท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นิคเคอิร่วง

© Reuters.

Investing.com -- หุ้นเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบทรงตัวสู่ระดับต่ำในวันอังคาร เนื่องจากชุดข้อมูลที่อ่อนแอจากประเทศเศรษฐกิจหลักได้ลดความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยง โดยหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงมากที่สุดโดยขยับลงจากระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี

ตัวเลขค่ากิจกรรมการผลิตที่ต่ำกว่าการคาดหมายจากสหรัฐฯ เยอรมนี และจีน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสัปดาห์นี้ และเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก

ความกลัวต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลกระทบต่อหุ้นในภูมิภาคก่อนการการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลียในท้ายวันนี้

ความไม่แน่นอนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBA ส่งผลต่อตลาดหุ้น

ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียเคลื่อนไหวเล็กน้อยในวันอังคาร โดยเทรดเดอร์ต่างพากันชะลอการซื้อขายก่อน RBA จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงเป้าหมายของธนาคารกลาง

แต่ผู้เฝ้าดูตลาดก็กำลังจับตาดูความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากหลายแง่มุมของเศรษฐกิจออสเตรเลีย โดยเฉพาะผลผลิตภาคการผลิตและตลาดที่อยู่อาศัยที่ศักยภาพการดำเนินงานเริ่มถดถอยภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่สูง

หุ้นญี่ปุ่นร่วงจากสูงสุดรอบ 33 ปี

ดัชนี นิคเคอิ 225 ลดลง 1% ในขณะที่ดัชนี TOPIX ในวงกว้างลดลง 0.7% เนื่องจากดัชนีทั้งสองถอยกลับจากจุดสูงสุดในรอบ 33 ปีในสัปดาห์นี้ ดัชนีนิคเคอิยังเป็นดัชนีที่ทำผลประกอบการแย่ที่สุดในเอเชียสำหรับวันนี้

ในขณะที่ความยืดหยุ่นในเศรษฐกิจญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ผันผวนทำให้หุ้นในประเทศพุ่งขึ้นเป็นเวลาสองเดือน แต่การเพิ่มขึ้นถูกจำกัดท่ามกลางความกลัวว่าเศรษฐกิจโลกจะเลวร้ายลงและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น

บริษัทผู้ผลิตยา Daiichi Sankyo (TYO:4568) ทำผลงานแย่ที่สุดในดัชนีนิคเคอิ โดยลดลง 14% หลังจากผลการทดลองยารักษามะเร็งปอด โดยความร่วมมือกับ AstraZeneca PLC ของสหราชอาณาจักร (LON: AZN) ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์น้อยกว่าที่คาดไว้

ตลาดเอเชียที่กว้างขึ้นอยู่ในกรอบแคบ โดยดัชนี CSI 300 ของจีนและ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ซื้อขายแบบไซด์เวย์ ในขณะที่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งขยายการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากเซสชั่นก่อนหน้า

ผลสำรวจเอกชนแสดงให้เห็นเมื่อวันจันทร์ว่าภาคการผลิตของจีนเติบโตช้ากว่าเดือนก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดข้อสงสัยมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียในปีนี้

ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนี Taiwan Weighted เพิ่มขึ้น 0.1%

หุ้นอินเดียทำสถิติสูงสุด

หุ้นฟิวเจอร์สที่ซื้อขายในสิงคโปร์สำหรับดัชนี Nifty 50 ของอินเดียชี้ไปที่การเปิดบวกเล็กน้อยสำหรับหุ้นท้องถิ่นในวันอังคาร หลังจากที่ดัชนี Nifty และ BSE Sensex 30 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์

การมองโลกในแง่ดีต่อเศรษฐกิจอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภาคเทคโนโลยี และแรงซื้อที่ไหลเข้าจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เป็นตัวขับเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดของการปรับตัวขึ้นของหุ้นอินเดียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ยังเตือนเกี่ยวกับหุ้นในประเทศที่อาจขาดทุนในระยะสั้นเนื่องจากแรงเข้าซื้อในระยะเวลาอันรวดเร็ว