InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกว่า 200 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,261.02 จุด บวก 230.91 จุด หรือ 0.72%
ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวานนี้ ตามการคาดการณ์ของตลาด และส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 2567 และ 1.2% ในปี 2568
ขณะเดียวกัน การดีดตัวขึ้นของตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ดิ่งลงวานนี้
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 500 จุดวานนี้ แม้เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเฟดไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนรู้สึกผิดหวังวานนี้ หลังนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ไม่มีแผนพิจารณาเรื่องการคุ้มครองเงินฝากทั้งหมดของภาคธนาคาร หลังจากที่ก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนักรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังศึกษาแนวทางในการทำให้ FDIC สามารถคุ้มครองเงินฝากได้ทั้ง 100% จากปัจจุบันที่ให้การคุ้มครองไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 191,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 198,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 196,250 ราย โดยปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 200,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 1.69 ล้านราย