โดย Ambar Warrick
Investing.com -- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงเมื่อวันพุธ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด เพิ่มความวิตกว่าจะมีการเคลื่อนไหวทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยหุ้นเทคโนโลยีในภูมิภาคต่างพากันขาดทุนอย่างหนัก
หุ้นเทคโนโลยีในภูมิภาคยังได้รับแรงกดดันจาก Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett (NYSE:BRKa) ที่ได้ทิ้งหุ้นจำนวนมากในผู้ผลิตชิป Taiwan Semiconductor Manufacturing Corp (TW:2330) และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Apple Inc (NASDAQ:AAPL)
TSMC ร่วงลงมากกว่า 3% ส่งผลให้ดัชนี Taiwan Weighted ร่วงลง 1.6% มีผลงานในตลาดหุ้นเอเชียที่แย่ที่สุดสำหรับวันนี้
ดัชนีภาคเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็มีการขาดทุนที่สูงชันเช่นกัน โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 1.3% ในขณะที่ KOSPI ของเกาหลีใต้ร่วง 1.2%
ตลาดหุ้นเอเชียในวงกว้างก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีน ร่วงลง 0.3% และ 0.4% ตามลำดับ
ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้รับผลกระทบจากข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐในเดือนมกราคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่แม้เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งก็ตาม
การอ่านค่าดังกล่าวทำให้เฟดมีแรงกระตุ้นมากขึ้นในการคงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ ซึ่งจะทำให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดเอเชีย ธนาคารกลางในภูมิภาคคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้ทันกับเฟด ซึ่งจำกัดเงื่อนไขสภาพคล่อง
แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะถดถอยในปีนี้ โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อการชะลอตัว
หุ้นเอเชียขาดทุนอย่างหนักในปี 2022 เนื่องจากเฟดเริ่มดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและต่อเนื่องจนถึงปีนี้ ตัวชี้วัดเศรษฐกิจของจีนที่แสดงให้เห็นว่าฟื้นตัวระดับปานกลางยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในโอกาสที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียจะฟื้นตัว
ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นทรุดตัวลง 0.5% โดยนักลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงินในท้องถิ่น หลังจากที่รัฐบาลได้เสนอชื่อ คาซูโอะ อุเอดะ นักเศรษฐศาสตร์ให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคนต่อไปอย่างเหนือความคาดหมาย
อุเอดะซึ่งถูกมองว่าเป็นม้ามืดคาดว่าจะนำแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาใช้ในการจัดการนโยบายการเงิน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศ อาจกระตุ้นให้เกิดความเข้มงวดทางการเงินได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียทรุดลง 1% โดยหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ส่งผลมากที่สุดต่อแนวโน้มที่อ่อนแอจาก Commonwealth Bank of Australia
CBA ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของประเทศ มีกำไรระหว่างกาลสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เตือนว่าสภาพสินเชื่อในประเทศกำลังเย็นลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูง