หุ้นในเอเชียปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดีเนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมและข้อมูลอื่น ๆ ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้จากประเทศจีนส่งผลต่อความเชื่อมั่นแม้ว่าออสเตรเลียจะมีงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
Nikkei 225 ในญี่ปุ่น ลดลง 0.11% ในขณะที่ S & P/ASX 200 ปรับลดลง 0.13% ในประเทศจีน ดัชนี Hang Seng ลดลง 0.42% และ Shanghai Composite ลดลง 0.17%
จีนประกาศตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในเดือนส.ค. ขยายตัว 7.8% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที 8.2% ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในปี เพิ่มขึ้น 6.6% และ ยอดขายปลีก เพิ่มขึ้น 10.1% เทียบกับคาดการณ์ในปีที่ 10.5%
ก่อนหน้านี้ออสเตรเลียรายงานตัวเลขการจ้างงานที่มีการปรับตัวสูงขึ้น 54,200 ตำแหน่งเทียบกับ 15,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนส. ค.ส่วนอัตราการมีส่วนร่วมอยู่ที่
หุ้นในสหรัฐฯพุ่งแตะระดับปิดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่สองติดต่อกัน ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อราคาขายส่งที่อ่อนแอขณะที่ความหวังใหม่ของการปฏิรูปด้านภาษีช่วยให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
Dow Jones Industrial Average ปิดสูงที่ 22158.18 ส่วน S & P 500 ปิดสูงขึ้น 0.08% ในขณะที่ Nasdaq Composite ปิดที่ 6460.19 เพิ่มขึ้น 0.09%
การพุ่งขึ้นของหุ้นวอลล์สตรีทไม่ได้มีทีท่าว่าจะหยุดเนื่องจากดัชนีหลักของสหรัฐฯสามดัชนีปิดลงที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงชื่นบานกับความไม่แน่นอนภูมิรัฐศาสตร์ในขณะที่มีความคิดเห็นในแง่ดีต่อการปฏิรูปด้านภาษี
ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตเตอร์เข้ามาในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชินกล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาการปฏิรูปภาษีย้อนหลังในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกัน
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อขายส่งน้อยกว่าที่คาด และด้วยเหตุที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวอาจทำให้แผนของ Federal Reserve ที่จะปรับขึ้นอัตราอย่างน้อยอีกครั้งต้องถูกยกเลิกไปก่อน
กระทรวงแรงงานกล่าวว่าดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับอุปสงค์สุดท้ายเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนกรกฎาคม ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาถึงเือนสิงหาคม PPI เพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนกรกฎาคม
บริษัท Apple Inc หุ้นลดลงนำทุกหุ้นในภาคเทคโนโลยี หลังจากที่บริษัท เทคโนโลยียักษ์ใหญ่เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่รวมถึง iPhone X ซึ่งจะวางตลาดในวันที่ 3 พฤศจิกายน
หุ้นของ Apple Inc (AAPL) ปิดที่ 159.65 ลดลง 0.75%