เจคอบส์จะดูแลโครงการรถรางใหม่ของโอมาฮาในฐานะเจ้าของ

ดัลลัส - บริษัทวิศวกรรม Jacobs (NYSE:J) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนเจ้าของโครงการรถรางใหม่ของ Omaha Streetcar Authority ซึ่งได้รับมอบหมายให้เชื่อมต่อตัวเมืองโอมาฮากับย่านใจกลางเมือง

โครงการนี้ซึ่งคาดว่าจะเป็นเส้นทางวนรอบสามไมล์โดยมีจุดแวะพักมากกว่า 15 แห่ง มีเป้าหมายเพื่อให้การเชื่อมโยงการขนส่งที่สําคัญซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น

Jacobs ได้ปรึกษากับ Omaha Streetcar Authority มาเกือบหนึ่งปีแล้ว และตอนนี้จะดูแลการตรวจสอบการออกแบบ การส่งมอบ และการจัดการงบประมาณและกําหนดการของโครงการ

ระบบรถรางได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกในการขนส่งที่ยั่งยืนโดยใช้ไฟฟ้าและคาดว่าจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับรถโดยสารหรือรถยนต์

Katus Watson รองประธานอาวุโสของ Jacobs เน้นย้ําถึงศักยภาพของโครงการในการเพิ่มพลังชุมชนและการพัฒนาเศรษฐกิจ วัตสันเน้นย้ําถึงบทบาทของรถรางในการเชื่อมโยงผู้อยู่อาศัยกับสิ่งอํานวยความสะดวกในเมืองต่างๆ และกระตุ้นโอกาสการจ้างงานในเขตยุทธศาสตร์ในโอมาฮา รวมถึงสถานพยาบาลที่สําคัญ มหาวิทยาลัย และศูนย์วัฒนธรรม

โครงการริเริ่มรถรางคาดว่าจะให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยอย่างมาก การประมาณการชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น 13 ล้านดอลลาร์ในช่วง 20 ปีเนื่องจากการจราจรบนท้องถนนที่ลดลง ควบคู่ไปกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจําปีมูลค่า 12.1 พันล้านดอลลาร์สําหรับพื้นที่โอมาฮาที่ใหญ่กว่า โครงการนี้ยังถูกมองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของการจ้างงานและการขยายตัวที่มีความหนาแน่นสูงขึ้น

Jacobs ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นําด้านการจัดการโปรแกรมมีประวัติการมีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญและโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกรวมถึงโครงการ Expo 2020 Dubai และ Thames Tideway Tunnel ในลอนดอน

บทบาทของ บริษัท ในโครงการรถรางโอมาฮาสอดคล้องกับภารกิจที่กว้างขึ้นในการจัดการกับความท้าทายระดับโลกที่สําคัญและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ด้วยพนักงานมากกว่า 60,000 คนและมีรายได้ต่อปีประมาณ 16 พันล้านดอลลาร์ Jacobs ให้บริการระดับมืออาชีพที่หลากหลายแก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน

ข้อมูลสําหรับบทความนี้อ้างอิงจากคําแถลงข่าว ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าของ Jacobs ภายในข่าวประชาสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่อาจทําให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์เหล่านี้

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Jacobs Engineering Group ได้รับเลือกให้จัดการโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญทั่วสหรัฐอเมริกา บริษัทกําลังดูแลการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สําหรับแผนกบําบัดน้ําเสียคิงเคาน์ตี้ในรัฐวอชิงตัน

Jacobs ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้นําในการขยายการดําเนินงานด้านการผลิตชีววิทยาของ FUJIFILM Diosynth Biotechnologies มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ในนอร์ทแคโรไลนา นอกจากนี้ Jacobs ยังถูกกําหนดให้เป็นผู้นํางานออกแบบสําหรับโครงการ SR 509 Stage 2 Completion Project ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นส่วนสําคัญของโปรแกรม Puget Sound Gateway Los Angeles World Airports ยังได้เลือก Jacobs เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาหลัก 15 คนสําหรับโครงการปรับปรุงเงินทุนของพวกเขา

ในการพัฒนาทางการเงิน Jacobs รายงานผลประกอบการที่หลากหลายในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2024 โดยมีการเติบโตแบบออร์แกนิกอย่างมีนัยสําคัญในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets และ Barclays ได้กําหนดเป้าหมายราคาสําหรับ Jacobs ที่ $161.00 และ $150.00 ตามลําดับ ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองเชิงบวกต่อเส้นทางการเติบโตของบริษัท

นอกจากนี้ Jacobs ยังประกาศแต่งตั้ง Venk Nathamuni เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินคนใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2024 สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในการพัฒนาล่าสุดของ Jacobs Engineering Group

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

ในขณะที่ Jacobs (NYSE:J) เตรียมพร้อมที่จะขับเคลื่อนโครงการ Omaha Streetcar ไปสู่ความสําเร็จ สุขภาพทางการเงินและประสิทธิภาพทางการตลาดของบริษัทยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุน ด้วยมูลค่าตลาด 17.35 พันล้านดอลลาร์ Jacobs จึงเป็นหน่วยงานที่สําคัญในอุตสาหกรรมบริการระดับมืออาชีพ ความมุ่งมั่นของบริษัทในการเติบโตของเงินปันผลนั้นโดดเด่น โดยมีสถิติการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกสําหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคง

หุ้นของบริษัทมีความผันผวนของราคาต่ํา ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสําคัญกับความมั่นคงในพอร์ตโฟลิโอของตน แม้ว่านักวิเคราะห์บางคนจะปรับลดการคาดการณ์ผลประกอบการลงสําหรับช่วงเวลาที่จะมาถึง แต่ Jacobs ยังคงเป็นบริษัทที่ทํากําไรได้โดยมีกําไรขั้นต้นที่รายงาน 3.55 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ความสามารถในการทํากําไรนี้ถูกขีดเส้นใต้ด้วยอัตรากําไรขั้นต้นที่มั่นคงที่ 21.0% ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษารายได้แม้จะมีต้นทุนการดําเนินงานก็ตาม

สําหรับผู้ที่สนใจเจาะลึกการเงินและการคาดการณ์ในอนาคตของ Jacobs InvestingPro นําเสนอข้อมูลเชิงลึกและตัวชี้วัดเพิ่มเติม ขณะนี้มีเคล็ดลับเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.investing.com/pro/J สําหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิก ให้ใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและการสมัครสมาชิก Pro+ รายปีหรือรายปักษ์

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน