Tammy M. Finley รองประธานบริหารและที่ปรึกษาทั่วไปของ Advance Auto Parts Inc. (นิวยอร์ก:AAP) เพิ่งขายหุ้นสามัญของบริษัท 1,276 หุ้น ธุรกรรมซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2024 ดําเนินการในราคา 44.06 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 56,220 ดอลลาร์ การขายเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ท้าทายสําหรับ AAP ซึ่งหุ้นลดลงกว่า 31% ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลของ InvestingPro ปัจจุบันบริษัทซื้อขายที่อัตราส่วน P/E ที่ค่อนข้างสูงที่ 61
หลังจากการขายครั้งนี้ Finley ยังคงเป็นเจ้าของหุ้น 24,266 หุ้นในผู้ค้าปลีกชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกรรมนี้ได้รับการบันทึกไว้ในการยื่นต่อค่านายหน้ากํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ Finley ในฐานะเจ้าหน้าที่ภายในบริษัท การวิเคราะห์ของ InvestingPro บ่งชี้ถึงช่วงเวลาที่ท้าทายในอนาคต โดยนักวิเคราะห์ 18 คนปรับลดการคาดการณ์ผลประกอบการลง ค้นพบข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์โดยละเอียดเพิ่มเติมในรายงาน Pro Research ที่ครอบคลุม ซึ่งมีให้เฉพาะสมาชิก InvestingPro เท่านั้น
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Advance Auto Parts เป็นจุดสนใจของการปรับเปลี่ยนของนักวิเคราะห์หลายครั้งหลังจากรายได้และรายได้ลดลง TD Cowen คงอันดับความน่าเชื่อถือในหุ้นของบริษัท โดยอ้างถึงกลยุทธ์การพลิกฟื้นที่ทะเยอทะยานซึ่งอาศัยการสร้างห่วงโซ่อุปทานขึ้นมาใหม่เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน Citi ยังคงให้คะแนนที่เป็นกลาง แต่ลดเป้าหมายหุ้นจาก 55.00 ดอลลาร์เป็น 44.00 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการขยายมาร์จิ้น Truist Securities ยังลดเป้าหมายของบริษัทลงเหลือ 39 ดอลลาร์จาก 41 ดอลลาร์ โดยคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ และ RBC Capital ได้เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 50 ดอลลาร์ โดยรักษาอันดับการดําเนินงานของภาคส่วน CFRA ปรับลดอันดับหุ้นของบริษัทจากการถือครองเป็นขาย
การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจาก Advance Auto Parts ประกาศแผนการฟื้นฟูองค์กร โดยมีเป้าหมายยอดขาย 9 พันล้านดอลลาร์และอัตรากําไรจากการดําเนินงาน 7% ภายในปี 2027 ซึ่งรวมถึงการปิดร้านค้าที่มีประสิทธิภาพต่ํากว่า 500 แห่ง และปรับปรุงความพยายามในการจัดหาและการขายสินค้า แม้จะเผชิญกับความท้าทาย เช่น ระบบขัดข้องและผลกระทบของพายุเฮอริเคนเฮลีน แต่บริษัทก็สามารถปรับปรุงกําไรขั้นต้นเป็น 908 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 42.3% ของยอดขายสุทธิ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์แสดงความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการขยายอัตรากําไรขั้นต้นได้สําเร็จตามความพยายามก่อนหน้านี้ นี่คือการพัฒนาล่าสุดที่นักลงทุนต้องตระหนัก
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน