ลอสแองเจลิส—Bennett Rosenthal ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกลุ่มไพรเวทอิควิตี้ที่ Ares Management Corp (นิวยอร์ก:ARES) ได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ของเขาในบริษัท ตามการยื่นต่อ SEC เมื่อเร็วๆ นี้ Rosenthal ได้ทําธุรกรรมหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นสามัญประเภท A ในช่วงสามวันตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนถึง 19 พฤศจิกายน 2024
Rosenthal ขายหุ้นทั้งหมด 43,329 หุ้นในราคาตั้งแต่ 166.71 ถึง 170.11 ดอลลาร์ต่อหุ้น ธุรกรรมรวมกันมีมูลค่าประมาณ 9.49 ล้านดอลลาร์ การขายเหล่านี้ดําเนินการภายใต้แผนการซื้อขาย 10b5-1 ที่กําหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่ง Rosenthal หรือยานพาหนะควบคุมนํามาใช้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2024
ตามหุ้นสามัญ Rosenthal ถือหุ้น 193,571 หุ้นสามัญคลาส A ผ่าน BAR Holdings, LLC ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เขาควบคุม นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของหุ้นทางอ้อม 1,076,052 หุ้นผ่าน Ares Owners Holdings LP ซึ่งเขาเป็นหุ้นส่วนจํากัด
การขายหุ้นของ Rosenthal เป็นส่วนหนึ่งของแผนโครงสร้าง ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารสามารถขายหุ้นได้ตามเวลาที่กําหนดไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น Ares Management ผู้จัดการการลงทุนทางเลือกชั้นนําระดับโลกยังคงดําเนินงานต่อไปโดยมุ่งเน้นที่การส่งมอบประสิทธิภาพการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Ares Management ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางการเงินอย่างมีนัยสําคัญด้วยผลประกอบการไตรมาสที่สามที่แข็งแกร่ง บริษัทรายงานค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มขึ้น 18% รายได้ที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 24% และรายได้ที่เกิดขึ้นจริงเพิ่มขึ้น 28% นอกจากนี้ Ares ยังปรับใช้เงินเกือบ 30 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกในไตรมาสนี้ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 74.6 พันล้านดอลลาร์สําหรับปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทระดมทุนได้เกือบ 21 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สามเพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาการระดมทุนที่ทําลายสถิติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ RBC ตลาดทุนได้อัปเดตแนวโน้มของ Ares Management โดยเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 185 ดอลลาร์จาก 170 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ในขณะที่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า แม้จะมีการปรับประมาณการกําไรต่อหุ้น (EPS) ลงเล็กน้อย แต่ RBC เน้นย้ําถึงความยืดหยุ่นของ Ares Management ในโมเมนตัมการระดมทุนและตําแหน่งในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนําระดับโลกสําหรับสินเชื่อเอกชน
อย่างไรก็ตาม Ares Management คาดว่าอัตรากําไรที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียม (FRE) จะลดลงเหลือประมาณ 40% ในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะมีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 โดยมีรายได้จากผลการดําเนินงานที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมที่คาดการณ์ไว้ระหว่าง 160 ล้านถึง 170 ล้านดอลลาร์ บริษัทยังคาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) และรายได้จากผลการดําเนินงานในปี 2025 และปีต่อๆ ไป
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ในฐานะที่เบนเน็ตต์ โรเซนธาล ผู้ร่วมก่อตั้ง นิวยอร์ก แอร์แมนของ Private Equity Group ที่ Ares Management Corp (NYSE:ARES) ดําเนินการขายหุ้นที่สําคัญ จึงควรตรวจสอบฐานะทางการเงินในปัจจุบันของบริษัทและผลการดําเนินงานของตลาด
จากข้อมูลของ InvestingPro Ares Management มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจํานวนมากที่ 53.0 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตําแหน่งที่โดดเด่นในภาคการจัดการการลงทุนทางเลือก หุ้นของบริษัทกําลังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ โดยมีราคาอยู่ที่ 96.93% ของจุดสูงสุด ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่ง
Ares ได้แสดงให้เห็นถึงผลการดําเนินงานทางการเงินที่น่าประทับใจ โดยมีการเติบโตของรายได้รายไตรมาสที่โดดเด่นที่ 68.3% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 การเติบโตนี้เสริมด้วยอัตรากําไรขั้นต้นที่ดีที่ 46.1% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาความสามารถในการทํากําไรท่ามกลางการขยายตัว
เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําว่า Ares Management ได้ขึ้นเงินปันผลเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 2.18% การเติบโตของเงินปันผลที่สม่ําเสมอนี้ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้น 20.78% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา อาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสําคัญคือต้องทราบว่า Ares มีการซื้อขายที่ทวีคูณรายได้สูง โดยมีอัตราส่วน P/E ที่ 76.67 และอัตราส่วน P/E ที่ปรับปรุงแล้วที่ 105.63 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2024 การประเมินมูลค่านี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนกําลังกําหนดราคาในความคาดหวังการเติบโตในอนาคตอย่างมีนัยสําคัญ
สําหรับผู้อ่านที่สนใจในการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้น InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับและข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ปัจจุบันมีเคล็ดลับ InvestingPro อีก 12 ข้อสําหรับ Ares Management ซึ่งให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน