สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้กล่าวไว้ในวันนี้ว่า ประเทศไทยควรเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงทางการค้าสำหรับเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกในเดือนสิงหาคมนี้ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกหรือไม่
ก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านและกลุ่มความเคลื่อนไหวทางสังคมบางกลุ่มได้ออกมาคัดค้านการเป็นสมาชิกของข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และชี้ว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจภาคการเกษตรและสาธารณสุขภายในประเทศได้
ถึงกระนั้นนายปรีดี ดาวฉาย ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กลับเห็นว่า การเข้าร่วมการเจรจาจะช่วยให้ประเทศไทยได้ทราบข้อดีข้อเสียต่อการเข้าร่วมได้
"กระบวนการเข้าร่วมเป็นประเทศสมาชิกจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ปี และประเทศไทยจะสามารถถอนตัวได้ทุกเมื่อหากพบว่าการเข้าร่วมจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์"
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่า การเป็นประเทศสมาชิกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยและลดผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้
ประเทศสมาชิก อาทิ ญี่ปุ่นและแคนาดา ล้วนลงนามข้อตกลง CPTPP เมื่อปี 2018 โดยสหรัฐไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากข้อตกลงเดิมที่ชื่อข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้น