👁 ค้นพบหุ้นชนะตลาดเหมือนกับนักลงทุนมือโปรด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI มหกรรมลดราคา Cyber Monday จะหมดเขตเร็ว ๆ นี้!รับส่วนลด

ตลาดสกุลเงินเอเชียปรับขึ้น หลังดอลลาร์ย่อตัว

เผยแพร่ 04/10/2565 11:56
อัพเดท 04/10/2565 13:44
© Reuters
USD/JPY
-
AUD/USD
-
USD/THB
-
USD/KRW
-
DX
-
DXY
-
USD/CNH
-

โดย Ambar Warrick   

Investing.com – สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ผ่อนคลายจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหลังจากที่ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลง 0.8% เป็น 0.6466 ดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 25 จุดพื้นฐาน (bps) ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ธนาคารกลางกล่าวว่าตั้งใจที่จะรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการทำให้มั่นใจว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ในขณะที่ RBA ยังคงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง เนื่องจากช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศกว้างขึ้น

เศรษฐกิจออสเตรเลียกำลังลำบากกับปัญหากับอัตราเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนเชื้อเพลิงและอาหารที่สูงขึ้น ส่งผลให้ RBA ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหกครั้งจนถึงปีนี้

สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอได้กระตุ้นการเดิมพันว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงเพื่อป้องกันการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดัชนีดอลลาร์ และกัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์สร่วงลง 0.1% ขาดทุนติดต่อกันสี่วัน

วันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์ในจีนและฮ่องกงทำให้ปริมาณการซื้อขายในภูมิภาคชะลอตัว

แต่ค่าเงิน หยวนนอกประเทศ ของจีนเพิ่มขึ้น 0.2% โดยฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว

จีนได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของค่าเงินหยวน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขอัตราอ้างอิงรายวันให้แข็งค่าขึ้นและการแทรกแซงในตลาดสกุลเงิน

แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะกดดันค่าเงินหยวนในระยะสั้นต่อไป เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของจีนลดลงต่ำกว่าคู่แข่งทั่วโลกในปีนี้

เงินวอนของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.2% ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปี ขณะที่รูเปียห์อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 0.1%

เงินเยนแข็งค่าตามแนวโน้ม โดยร่วงลง 0.2% และเข้าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีที่ประมาณ 145 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เงินเยนถูกข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในโตเกียวเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือนกันยายนกดดันอย่างหนัก ซึ่งชี้ไปที่อัตราเงินเฟ้อที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในประเทศ

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อรูปีอินเดียที่ปรับตัวลดลง 0.1%

ค่าเงินบาท กลับมาแข็งค่า หลุด 38 บาทกลับมาอยู่ที่ 37.545 บาทต่อดอลลาร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย