โดย Ambar Warrick
Investing.com-- ค่าเงินหยวนของจีนร่วงลง ในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางสัญญาณการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศ ขณะที่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก่อนประกาศข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ค่าเงิน หยวน ตกลง 0.2% มาที่ 6.9027 หยวนต่อดอลลาร์ หลังจากการสำรวจพบว่า กิจกรรมการผลิตของจีน หดตัวลงในเดือนสิงหาคม
ข้อมูลตรงกับการชะลอตัวที่คล้ายกันใน รายงานของรัฐบาล เมื่อวันพุธ ตอกย้ำความกดดันที่เศรษฐกิจจีนเผชิญจากการล็อกดาวน์จากโควิด-19 และการขาดแคลนพลังงาน
รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่สิ่งนี้ผลักดันให้ค่าเงินหยวนแตะระดับต่ำสุดในรอบสองปี
การพบเคส COVID-19 ในเซินเจิ้นและกวางโจวยังทำให้นักลงทุนกังวลเพิ่มเติม
สกุลเงินเอเชียในวงกว้างถอยกลับ เนื่องจาก ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 0.3% ก่อน รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร จะออกในวันศุกร์ ในขณะที่คาดว่าตำแหน่งจะลดลงในเดือนสิงหาคมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สัญญาณของความยืดหยุ่นในตลาดแรงงานอาจเปิดพื้นที่มากขึ้นสำหรับเฟดในปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดอลลาร์ก็เพิ่มขึ้น 0.3% ด้วยความแข็งแกร่งของดอลลาร์ที่ชั่งน้ำหนักหน่วยในเอเชียส่วนใหญ่ ขณะนี้ผู้ค้ากำลังประเมิน โอกาสมากกว่า 70% ที่ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดในปลายเดือนกันยายน
เยนของญี่ปุ่น ลดลง 0.4% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีที่ 139.56 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงได้กระทบเงินเยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่เต็มใจที่จะกระชับนโยบายการเงิน
เงินเยนเป็นหนึ่งในสกุลเงินเอเชียที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในปีนี้ และคาดว่าความอ่อนแอของค่าเงินจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศกว้างขึ้น
วอนเกาหลีใต้ ลดลง 0.8% และเป็นสกุลเงินเอเชียที่แย่ที่สุดในวันพฤหัสบดี หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประเทศ ขาดดุลการค้า ในเดือนสิงหาคม
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ร่วงลง 0.6% เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวในจีนชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่ลดลงสำหรับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของประเทศ
ข้อมูล ภาคการผลิต ของออสเตรเลียก็ขยายตัวช้าลงในเดือนสิงหาคมจากเดือนก่อนเช่นกัน
ค่าเงินบาท อ่อนค่าอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยเช้านี้ปรับตัวขึ้นอีก 0.62% มาอยู่ที่ 36.745 บาทต่อดอลลาร์