โดย Gina Lee
Investing.com – ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเช้าวันอังคารในเอเชีย แต่กำลังไต่ขึ้นสู่ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในชั่วข้ามคืน เนื่องจากนักลงทุนเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้น ทำให้ค่าเงินของสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ได้จากการเทียบค่าเงินดอลลาร์กับสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.04% เป็น 96.180 เมื่อเวลา 20:52 น. ET (1:52 น. GMT)
ค่าเงินเยน ขยับขึ้น 0.09% เป็น 115.43 เยนต่อดอลลาร์
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขยับขึ้น 0.13% เป็น 0.7200 โดยค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 0.7184 ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขยับขึ้น 0.07% เป็น 0.6789
ค่าเงินหยวน เพิ่มขึ้น 0.32% เป็น 6.3727 หยวนต่อดอลลาร์ ข้อมูลจีนที่เผยแพร่เมื่อต้นวันแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อด้านการผลิตของ Caixin สำหรับเดือนธันวาคมดีเกินคาด 50.9
ค่าเงินปอนด์ เพิ่มขึ้น 0.07% เป็น 1.3481 เงินปอนด์ทรงตัวตั้งแต่วันจันทร์ โดยร่วงลงต่ำสุดที่ 1.3431 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 29 พ.ย.
ตลาดญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลียกลับมาเปิดใหม่หลังจากวันหยุดยาว
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดที่ 115.395 เยนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. โดยได้แรงหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวที่พุ่งสูงขึ้น 12.5 จุดในชั่วข้ามคืนแตะระดับ 1.6420% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.
นักลงทุนยังคงเดิมพันว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 โดยตลาดเงินจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเต็มที่ในครั้งแรกภายในเดือนพฤษภาคม และอีกสองครั้งภายในสิ้นปี 2565
“ตลาดกำลังกำหนดราคาในสถานการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หรือมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะปรับขึ้นในปี 2022 และนั่นยังคงเป็นแนวรับหลักสำหรับเงินดอลลาร์” ชินนิชิโระ คาโดตะ นักยุทธศาสตร์อาวุโส FX กล่าวกับรอยเตอร์ส
จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสายพันธุ์โอมิครอน การเดินทางทั่วโลกและบริการสาธารณะยังคงล่าช้า โดยโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาบางแห่งอาจเลื่อนวันเปิดเรียนออกไปหลังวันหยุด
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงหวังว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ได้ ในขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท Pfizer Inc. (NYSE:PFE)/ BioNTech SE (F:22UAy) ให้ใช้สำหรับเด็กอายุระหว่าง 12 ถึง 15 ปี โดยอย.ยังย่นระยะเวลาสำหรับการฉีดบูสเตอร์จากเดิม 6 เดือน เหลือเพียง 5 เดือน