Investing.com ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอีก 6 สกุลในวันพฤหัสบดี พักฐานหลังปรับตัวต่อเนื่องขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งได้จากการเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล อยู่ที่ระดับ 94.016 หลังจากร่วงลง 0.53% ในวันพุธ ร่วงลงมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม
ดัชนีดอลลาร์แตะระดับ 94.563 ในวันอังคาร ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2020 หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 3% ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แม้หลังจากการประชุมในเดือนกันยายนของคณะกรรมการธนาคารกลาง (Federal Open Market Committee) ยืนยันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะลดลงทั้งหมด แต่แน่นอนว่าจะเริ่มในปีนี้ และแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายบางส่วนกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงอยู่
รายงานของกระทรวงแรงงานระบุว่า ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนกันยายน และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีกท่ามกลางราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งอาจกดดันให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อทำให้นโยบายเป็นปกติ
อัตราเงินเฟ้อคุ้มทุนในระยะ 5 ปีของสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดที่คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 2.59% ในชั่วข้ามคืน
ประธานเจอโรม พาวเวลล์ ได้โต้แย้งว่าแรงกดดันด้านราคาจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
ค่าเงินเยน แข็งค่าขึ้น 0.11% มาอยู่ที่ 113.37 เยนต่อดอลลาร์ ลดจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 113.80 เยนในชั่วข้ามคืน
ค่าเงินยูโร ส่วนใหญ่ทรงตัวจากวันพุธที่ 1.1599 ยูโรต่อดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1.3665 ปอนด์ต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาท แข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงถึง 33.190 บาทต่อดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี จากปัจจัยบวกที่นายกประกาศเปิดประเทศภายในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้