โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวลงในเช้าวันนี้ แต่จะสิ้นสุดสัปดาห์ด้วยการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ใกล้ระดับ 70 ดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนยังคงแยกแยะแนวโน้มความต้องการเชื้อเพลิงอันหลากหลาย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.43% เป็น 72.21 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:06 น. ET (4:06 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.43% เป็น 69.99 หลังจากปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 ในช่วงก่อนหน้า
ด้วยปริมาณการจราจรในสหรัฐอเมริกาและพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปเกือบจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิด ทำให้องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
"โดยรวมแล้ว กำลังมีการฟื้นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก และด้วยเหตุนี้ ความต้องการน้ำมันคาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี” OPEC ระบุในรายงานประจำเดือนที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี รายงานยังคาดการณ์ด้วยว่า อุปสงค์น้ำมันอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 5% ในช่วงครึ่งหลังของปี เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิเคราะห์ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ ที่แสดงให้เห็นว่า อุปทานน้ำมันดิบลดลงมากกว่าที่คาด 5,241,000 บาร์เรล ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิถุนายน
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า มีการเพิ่มขึ้น 7 ล้านบาร์เรลในน้ำมันคงคลังของสหรัฐ
"หากดูที่ตัวเลขรายสัปดาห์ จะเห็นได้ว่าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากความหวังด้านอุปสงค์ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจน ข้อมูลน้ำมันคงคลังของสหรัฐไม่ได้ออกมาดีนัก น้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก มันเป็นแรงกดดันราคาในช่วงท้ายของสัปดาห์” วิเวค ดาห์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Commonwealth Bank กล่าวกับรอยเตอร์
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการเจรจาที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างอิหร่านและประเทศมหาอำนาจโลก
สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอดีตเจ้าหน้าที่อิหร่าน 3 คนและบริษัท 2 แห่งที่ขายปิโตรเคมีของอิหร่านก่อนการเจรจารอบที่ 6 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาดูว่า จะมีการลงมติก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 หรือไม่
การเจรจาที่ประสบความสำเร็จจะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเพิ่มกลับเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก