Investing.com -- เงินดอลลาร์อ่อนค่าในวันอังคาร แต่อาจแข็งค่าขึ้นได้เร็ว ๆ นี้ เนื่องจากความสนใจของนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากเพดานหนี้ไปหารายงานการจ้างงานในสัปดาห์นี้ ที่อาจจะส่งผลต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนถัดไปอีกครั้ง
ดัชนีดอลลาร์ สหรัฐฯ ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินการค้าหกสกุลเงินหลัก ลดลง 0.14% เป็น 103.99
ในขณะที่โอกาสในการปรับขึ้นอีก 25 จุดพื้นฐานจากเฟดในการประชุม FOMC ในเดือนหน้าเติบโตขึ้น MUFG กล่าวเมื่อวันอังคารว่า “รายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งอีกครั้งในสัปดาห์นี้จะช่วยเสริมความคาดหวังเหล่านั้นและกระตุ้นให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น”
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ข้อมูลในวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเพิ่ม ตำแหน่งงานใหม่ 180,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงสำหรับเดือนนี้ลดลง 0.4% จาก 0.5%
แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อของบริการหลักยังคงร้อนแรง
“การขาดความคืบหน้าจะกดดันเฟดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้ว่าเรายังคงโต้แย้งว่าเฟดทำมามากพอแล้วโดยขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 5.0% โดยเฉพาะเงื่อนไขสินเชื่อที่จะเข้มงวดมากขึ้นในอนาคตเช่นกัน ” MUFG กล่าวเพิ่มเติม
การเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การผ่านเพดานหนี้เกิดขึ้นเนื่องจากตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ลงมติให้ร่างกฎหมายเพดานหนี้หรือ "กฎหมายความรับผิดชอบทางการเงิน" เป็นกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัด
“ตอนนี้บรรลุข้อตกลงแล้วและดูเหมือนว่าจะผ่านสภาทั้งสองแห่งในสัปดาห์หน้า” Goldman Sachs กล่าวในบันทึก
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายเพดานหนี้ดังกล่าวต้องเผชิญกับการแข่งขันกับเวลา หลังจากที่เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังเตือนว่า วันที่ 5 มิถุนายน จะเป็นวัน X-date หรือวันที่สหรัฐฯ จะไม่สามารถชำระหนี้ได้