InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (4 ต.ค.) โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 หลังจากตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย.ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50%
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.52% แตะที่ระดับ 102.520
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 148.85 เยนในวันศุกร์ (4 ต.ค.) จาก 146.85 เยนในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.), ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 0.8585 ฟรังก์สวิส จาก 0.8529 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 1.3575 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3548 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0973 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1026 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3122 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.3114 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดเมื่อเทียบกับเยนนับตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากนัก ในขณะที่พวกเขาคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ที่ 140,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเกินคาดสู่ระดับ 4.1% จาก 4.2% ในเดือนส.ค.
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้นของ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเมื่อวันจันทร์ (30 ก.ย.) ซึ่งคัดค้านการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากอีกนั้น ทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะหั่นอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 6-7 พ.ย.นี้
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงาน นักลงทุนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ไม่มีโอกาสที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งลดลงจากราว 31% ในช่วงเช้าวันศุกร์ และ 53% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง
อาทิตยา บาเว นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐของแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า BofA คาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมแต่ละครั้งจนถึงเดือนมี.ค. 2568 และจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในแต่ละไตรมาสจนถึงสิ้นปี 2568
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนในสัปดาห์นี้จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง