InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยูธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.36 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.43 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเช้านี้แข็งค่าจากปิดตลาดวันศุกร์ ซึ่งเป็นการแข็งค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากเมื่อวันศุกร์ ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเฟดรอบถัดไป ประกอบกับตลาดยังมีความกังวล ต่อปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ จึงทำให้ดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล วันนี้ปัจจัยในประเทศสำคัญที่ต้องจับตา คือ เรื่องการเมือง การเซ็น MOU จัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคการ เมืองรวม 8 พรรค 313 เสียง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้ต้องติดตามการเจรจาเรื่องเพดานหนี้สหรัฐต่อ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.36 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (22 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.83398% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.00953%
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 137.56 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ 138.50 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0823 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ 1.0762 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.465 บาท/ดอลลาร์ - ตลาดติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศวันนี้ โฟกัสไปที่การเซ็น MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรค ซึ่งนำ โดยพรรคก้าวไกล ในฐานะเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 - นักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบ เดน ผู้นำสหรัฐ และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้อีกครั้งในวัน จันทร์ (22 พ.ค.) - ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคง อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และสอดคล้องกับ การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ - ธนาคารกลางอินเดียประกาศว่า จะนำธนบัตรประเภท 2,000 รูปี ออกจากระบบการเงิน ซึ่งธนบัตรประเภท 2,000 รูปี เป็นธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดของอินเดีย ไม่ได้มีการใช้ที่แพร่หลายมากนักในการทำธุรกรรมต่างๆ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางยืนยันว่า ธนบัตรประเภท 2,000 รูปีจะยังคงมีสถานะชำระหนี้ได้ตามกฎหมายจนถึงวันที่ 30 ก.ย. - ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แก่ สหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนเม.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ บริโภคเดือนพ.ค. เป็นต้น