Investing.com - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวในการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดยุโรปเมื่อวันอังคาร ซึ่งเพิ่งปิดระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่ความขัดแย้งในวอชิงตันเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อเวลา 03:15 น. ET (07:15 GMT) ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายทรงตัวที่ 102.250
มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะผิดนัดชำระหนี้ หากยังคงหาข้อตกลงไม่ได้ ซึ่งเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังย้ำว่าอาจได้รับผลกระทบทันทีในวันที่ 1 มิถุนายน สิ่งนี้ได้ช่วยให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงหลัง
โดยคาดว่าทั้งสองพรรคจะประชุมกันอีกครั้งในวันอังคารนี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนแสดงความมั่นใจว่าข้อตกลงสามารถทำได้ แต่เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งพรรครีพับลิกันกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าทั้งสองฝ่ายยังคงอยู่ไกลจากข้อตกลงร่วมกัน
นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในบันทึกย่อว่า “หากเราไม่เห็นว่ามีความคืบหน้าที่ส่งเสริมอย่างแท้จริง ความกลัวของนักลงทุนอาจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” “หากไม่มีข่าวเชิงบวกในเรื่องนี้ เราคิดว่าความสมดุลของความเสี่ยงยังคงเอียงไปที่ขาขึ้นของเงินดอลลาร์ในตอนนี้ ซึ่งน่าจะเห็นกระแสแรงซ์้อสิทนทรัพย์ปลอดภัยในขณะที่ความเชื่อมั่นด้านความเสี่ยงยังคงอ่อนตัวลง”
นอกเหนือจากนี้ เทรดเดอร์มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยข้อมูล ดัชนียอดค้าปลีก ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะแสดงยอดขายเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเมษายน ซึ่งดีขึ้นจากการตกต่ำอย่างมากในเดือนที่แล้วที่ 0.6%
เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน แต่บอกใบ้ว่าอาจหยุดการคุมเข้มนโยบายเชิงรุกชั่วคราว เนื่องจากศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาและประเมินผลกระทบของการคุมเข้ม
อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นในเดือนเมษายน แม้ว่าจะต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย และเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่งได้กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะคงสูงขึ้นไปอีกนาน หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด
EUR/USD เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1.0880 หลังจากเด้งกลับจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในชั่วข้ามคืน ก่อนการเปิดเผยรายงาน ข้อมูลการเติบโต เบื้องต้นสำหรับยูโรโซนในไตรมาสแรก
โดยคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าภูมิภาคนี้แทบไม่มีการเติบโตเลยในช่วงสามเดือนแรกของปี โดยแค่เพิ่มขึ้น 0.1% ในไตรมาสนี้ และ 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมันจากสถาบัน ZEW ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ถดถอยลงในประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยูโรโซน
GBP/USD ลดลง 0.3% เป็น 1.2494 หลังจากที่ อัตราการว่างงาน ของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็น 3.9% ในช่วงสามเดือนจนถึงมีนาคม เพิ่มโอกาสที่ธนาคารแห่งอังกฤษจะหยุดขึ้น อัตราดอกเบี้ย ชั่วคราวจเมื่อประชุมกันครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายน
USD/JPY ลดลง 0.3% เป็น 135.78 AUD/USD ลดลง 0.3% เป็น 0.6683 ขณะที่ USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 6.9643 โดยเป็นการซื้อขายเงินหยวนใกล้ระดับต่ำที่สุดในรอบ 2 เดือนหลังจากข้อมูลของจีนแสดงให้เห็นว่า ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน และ ดัชนียอดค้าปลีก เติบโตน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนเมษายน
USD/TRY เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 19.6861 เนื่องจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของตุรกีมุ่งหน้าสู่จุดจบ Tayyip Erdogan ขึ้นนำคู่แข่งของเขา