InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.76 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.75 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.69 - 33.88 บาท/ดอลลาร์ จากปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง ส่วนความเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศวันนี้ ต่างชาติขายหุ้น แต่ลงทุนในพันบัตร "วันนี้บาทเคลื่อนไหวตามการย่อยข่าวผลการเลือกตั้ง และนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมือง ที่จะเข้ามาจัดตั้ง รัฐบาล ถึงแม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 ที่สภาพัฒน์แถลงจะดีเกินคาด แต่ค่าเงินบาทไม่ตอบรับกับเรื่องนี้" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.65 - 33.95 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 136.31 เยน/ดอลลาร์ จากการซื้อขายครั้งก่อนที่ 135.86 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0865 ดอลลาร์/ยูโร จากการซื้อขายครั้งก่อนที่ 1.0853 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด, -1.28% มูลค่าการซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 783.67 ลบ.(SET+MAI) - สภาพัฒน์ คงคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวในช่วง 2.7-3.7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้น ตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการลงทุน โดยคาด ว่าการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัว 3.7% การลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐขยายตัว 1.9% และ 2.7% ตาม ลำดับ ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง 1.6% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.5-3.5% และดุล บัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.4% ของ GDP - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองกรอบเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 33.50-34.20 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ส่วนคาดการณ์ว่าสหรัฐฯจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยนั้น ได้ถูกสะท้อนไปมากพอสมควรแล้ว ส่วนปัจจัยใน ประเทศเป็นความชัดเจนของผลการเลือกตั้งเป็น Sentiment เชิงบวกช่วงสั้นต่อค่าเงินบาท และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย - แกนนำพรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และยอมรับที่พรรคก้าวไกล เสนอตัวเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คิดตั้งรัฐบาลแข่ง - คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คาดเศรษฐกิจของยูโรโซน จะขยายตัวเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับในปีนี้ 1.1% และ 1.6% ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจอิตาลีและสเปนที่ขยายตัวเร็วขึ้น แต่เงินเฟ้อก็มีแนวโน้มที่จะ ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไป - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ คาดจะประชุมร่วมกับผู้นำสภาคองเกรส ซึ่งรวมถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อเจรจาต่อรองเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้สหรัฐ เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือน เม.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอ ตัวลงจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 7.4% และเป็นการชะลอตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเริ่มปรับ ตัวลดลง - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board