InfoQuest - ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (4 พ.ค.) หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.04% แตะที่ 101.3943
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1015 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1058 ดอลลาร์ในวันพุธ (3 พ.ค.) ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2578 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2561 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.1790 เยน จากระดับ 135.5070 เยนในวันพุธ ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8858 ฟรังก์ จากระดับ 0.8861 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3538 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3594 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.2423 โครนา จากระดับ 10.2446 โครนา
ที่ประชุม ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้ ถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว
แถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มอยู่สูงเกินไปและนานเกินไป โดยรายงานระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งแตะ 7.0% ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากปรับตัวลงเป็นเวลาหลายเดือน
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังไม่ปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ของ ECB จนกว่าจะถึงปี 2568
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในเดือนเม.ย.