โดย Ambar Warrick
Investing.com -- สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงในวันอังคาร ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากตลาดต่างพากันย่อตัวลงก่อนการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ความกลัวต่อวิกฤตธนาคารยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นอีกด้วย
เงินวอนเกาหลีใต้เป็นสกุลเงินที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดสำหรับวันนี้ โดยลดลง 0.6% เนื่องจากข้อมูล จากธนาคารแห่งประเทศเกาหลีแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อ และ ข้อมูลการค้า ที่อ่อนตัวทำให้มีแรงผลักดันมากขึ้นในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้
เงินหยวนของจีน ลดลง 0.1% ในขณะที่ เงินบาท ปรับตัวลงมากสุดนบรรดาสกุลเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอ่อนค่าลง 0.5%
เงินเยนญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.1% ในการซื้อขายช่วงวันหยุด แต่สกุลเงินกำลังปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากความกลัววิกฤตธนาคารของสหรัฐฯ และยุโรปได้กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ และยุโรปออกมาตรการด้านสภาพคล่องเพื่อสนับสนุนระบบธนาคารพาณิชย์ ตลาดยังคงอยู่ในความเสี่ยงจากการล่มสลายของธนาคารหลายแห่ง เนื่องจากภาคส่วนดังกล่าวต้องต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อุปสงค์ของดอลลาร์มีจำกัดเนื่องจากตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดความเข้มงวดทางการเงินลงเพื่อสกัดกั้นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อระบบธนาคาร สิ่งนี้ยังทำให้การซื้อขายดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดเปลี่ยนไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ทองคำ และโลหะมีค่าอื่น ๆ
แต่ ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้นประมาณ 0.1% ในวันอังคาร ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายระยะเวลา 2 วันของเฟดจะสิ้นสุดในวันพุธ ธนาคารกลางได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อ ยังคงมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงเป้าหมาย
แนวโน้มของธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงินจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเมื่อเผชิญกับวิกฤตธนาคารที่อาจเกิดขึ้น สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ อ่อนตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ โดยเงิน รูปีอินเดีย และเงิน ดอลลาร์สิงคโปร์ ลดลง 0.2% ต่อสกุลเงิน
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ลดลง 0.4% หลังจาก รายงานบันทึก การประชุมในเดือนมีนาคมของธนาคารกลางแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายกำลังพิจารณาที่จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว ท่ามกลาง {{ecl-1011| |การลดอัตราเงินเฟ้อ}} และแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
แต่ธนาคารมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยต่อไปในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะถึงช่วงเป้าหมายของ RBA ภายในกลางปี 2025