InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าเทียบท้ายตลาด เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.พ.) มีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมา ให้ความเห็นว่า รอบการประชุมถัดๆ ไป จะสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ยที่อัตรา 0.25% ไม่สนับสนุนขึ้นดอกเบี้ย 0.50% นอกจากนี้ เนื่องจาก วันนี้ตลาดสหรัฐฯ หยุดทำการ จึงมีการปรับโพสิชันขายดอลลาร์ ทำให้เงินบาทแข็งค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.30 - 34.60 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการ ภาพใหญ่ตลาดรอรายงานการประชุมเฟดวันพุธนี้ (22 ก.พ.) THAI BAHT FIX 3M (17 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.28575% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.61779% SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.36250 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.47 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 134.81 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0676 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0645 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.541 บาท/ดอลลาร์ - "คลัง" โชว์ผลการจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกปีงบ 66 ทะยาน 8.36 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 9.1 หมื่นล้าน บาท อานิสงส์รีดภาษีเงินได้นิติบุคคลบูม แจงกู้ชดเชยขาดดุลแล้ว 2.47 แสนล้านบาท พร้อมอวดเงินคงคลังอู้ฟู่ 3.38 แสนล้านบาท - "กรุงไทย" คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 โตต่อเนื่อง เคาะจีดีพีที่ 3.4% รับผลดีท่องเที่ยวฟื้นตัวร้อนแรง ห่วงส่งออกทรุดกว่า ประเมิน หลังเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ - สภาพัฒน์ห่วงสงคราม "รัสเซีย-ยูเครน" ปีที่สอง ขยายวงไปยังภูมิภาคอื่น ชี้ความขัดแย้งเริ่มลามใกล้ไทยมากขึ้น ด้าน สรท.ประเมิน 1 ปีกระทบทั่วโลกหนัก คาดยังไม่ยุติง่าย แนะผู้ส่งออกปรับตัวรับมือ หวั่นรัสเซียงัดนิวเคลียร์ใช้ ด้าน "แบงก์ชาติ" ระบุชัด ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยยังมีน้อย - ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคง อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ - Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.3% ในเดือน ม.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากร่วงลง 0.8% ในเดือนธ.ค. - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 1/2566 - โกลด์แมน แซคส์และแบงก์ ออฟ อเมริกา คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ส่วนบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะแตะ ระดับสูงสุดที่ 5.3% ภายในเดือนก.ค. ขณะที่เฟดพยายามที่จะลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจและลดเงินเฟ้อ - บรรดานักลงทุนวิตกเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด หลังผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมีความคืบหน้าในการจัดการกับเงินเฟ้อ - ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคในเดือนก.พ. ตัวเลขจี ดีพีไตรมาส 4/65 (preliminary) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. - บรรดานักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมทั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 31 ม.ค.- 1 ก.พ. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด