🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวต่อไป?

เผยแพร่ 29/05/2565 18:24
© Reuters

โดย Noreen Burke

Investing.com – ด้วยความที่เดือนแห่งความวุ่นวายในตลาดตราสารทุนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว นักลงทุนจะรอดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของตลาดในเดือนมิถุนายน ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดได้เติมความหวังให้ธนาคารกลางสหรัฐ นักลงทุนยังจะจับตาข้อมูล PMI จากประเทศจีน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เนื่องจากโควิด ขณะเดียวกัน ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนที่จะออกมาในวันอังคารนี้คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งความหวังให้ธนาคารกลางยุโรปเริ่มต้นรอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์การลงทุน

  1. การจ้างงานนอกภาคการเกษตร

ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์คาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจจะเพิ่มงาน 320,000 ตำแหน่ง ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งชะลอตัวจาก 428,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน แสดงถึงการเติบโตของงานที่น้อยที่สุดในรอบปี

การเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางการขาดแคลนแรงงาน และอัตราการว่างงานคาดว่าจะแตะระดับ 3.5%

ปฏิทินเศรษฐกิจยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ การจ้างงานภาคเอกชน, ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อุปสงค์ในตลาดแรงงานที่จับตามองอย่างใกล้ชิดและตัวเลขรายสัปดาห์ของ {{ecl -294 || การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก}}

ข้อมูล ISM เกี่ยวกับกิจกรรมของภาค การผลิต และ ภาคบริการ จะได้รับความสนใจท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาที่เพิ่มขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน บน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค

  1. ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวต่อไป?

ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนีหลักทั้งสามได้ทำลายสถิติการขาดทุนประจำสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด เพิ่มความหวังว่าเฟดอาจไม่จำเป็นต้องกระชับนโยบายการเงินมากเท่าที่เคยกลัวมาก่อน

ข้อมูลในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน และยังระบุว่าเงินเฟ้อชะลอตัว

ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคมาหลังจากวันพุธที่แล้ว การประชุมในเดือนพฤษภาคมของเฟดแสดงให้เห็นว่า "ผู้กำหนดนโยบายจำนวนหนึ่ง" คิดว่า "ข้อมูลรายเดือนอาจบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านราคาโดยรวมอาจไม่เลวร้ายลงอีกต่อไป"

เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐาน จนถึงปีนี้ และตลาดต่าง ๆ กำลังกำหนดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

นักวิเคราะห์ตลาดบางคนในขณะนี้คิดว่าความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้ออาจถึงจุดสูงสุดหมายความว่าธนาคารกลางอาจหยุดวงจรการกระชับนโยบายการเงินในเดือนกันยายน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ (Memorial Day)

3. การแถลงจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง

นักลงทุนจะได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายคนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์  วอลเลอร์ มีกำหนดจะพูดในวันจันทร์นี้ ขณะที่นายจอห์น  วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์กแห่งเซนต์หลุยส์ และนายเจมส์ บุลลาร์ดประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ ที่ขึ้นชื่อว่าชอบดำเนินนโยบายแบบดุดัน(Hawkish) ทั้งคู่มีกำหนดจะพูดในวันพุธ ตามด้วย โลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ในอีกหนึ่งวันต่อมา 

นอกจากนี้ เฟดยังมีกำหนดจะเผยแพร่ หนังสือสีเบจ ล่าสุดในวันพุธ ซึ่งจะพิจารณาสภาพเศรษฐกิจในท้องถิ่นในแต่ละเขต 12 เขตของเฟด

  1. ข้อมูลPMIs ของจีน

เศรษฐกิจจีนได้แสดงสัญญาณการฟื้นตัวในเดือนนี้ จากการตกต่ำในเดือนเมษายน แต่กิจกรรมอ่อนแอกว่าปีที่แล้ว และนักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าการหดตัวในไตรมาสที่สอง

นักลงทุนกังวลว่าไม่มีแผนงานในการออกจากยุทธศาสตร์ Zero-Covid ของประเทศ ซึ่งกำลังสวนทางกับแนวโน้มที่พบในส่วนอื่น ๆ ของโลก

ปักกิ่งเตรียมปล่อย PMIs ภาคการผลิต และ นอกภาคการผลิต ที่คาดการณ์ล่วงหน้าในวันอังคารและวันพุธ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะยังคงต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวทุกเดือนในเดือนพฤษภาคม

ประเทศจีนได้เปิดเผยชุดมาตรการกว้าง ๆ ที่มุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจแล้ว และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ให้คำมั่นถึงแนวทางโดยละเอียดสำหรับการนำไปปฏิบัติในเร็ว ๆ นี้

เซี่ยงไฮ้ใกล้ปลดล็อกดาวน์ที่กินระยะเวลากว่า 2 เดือนในวันที่ 1 มิถุนายน ขณะที่ปักกิ่งเปิดระบบขนส่งสาธารณะบางส่วนอีกครั้งในวันอาทิตย์ รวมถึงห้างสรรพสินค้าบางแห่ง เนื่องจากการติดเชื้อมีเสถียรภาพ

  1. เงินเฟ้อจากยูโรโซน

ยูโรโซนจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการเงินเฟ้อล่าสุดในวันอังคารนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.7% ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจาก 7.4% ในเดือนเมษายน

นั่นจะช่วยเสริมความคาดหวังสำหรับการปรับนโยบายให้เป็นมาตรฐานที่ ECB ซึ่งจะมีกำหนดจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 มิถุนายน

นักเศรษฐศาสตร์และตลาดต่างคาดหวังว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละสี่ในเดือนกรกฎาคม แต่ค่าเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งมากอาจกระตุ้นให้เกิดการพูดถึงการเคลื่อนไหวที่ใหญ่กว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ ECB บางคนเรียกร้องให้เคลื่อนไหว

นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากควรเริ่มเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม และอาจอยู่ที่ศูนย์หรือ "สูงกว่าเล็กน้อย" ภายในสิ้นเดือนกันยายนก่อนที่จะปรับขึ้นต่อไป "สู่อัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง"

-- ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย