Investing.com - ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าโลกน่าจะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญต่อความมั่นใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
1. การพูดคุยที่กรุงปักกิ่ง
หลังจากการพูดคุยที่กรุงวอชิงตันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งสองชาติจะเริ่มต้นเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้
การพูดคุยครั้งใหม่นี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ นำโดย นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง และเจฟฟรีย์ เกอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเข้าร่วมประชุมกับฝั่งจีนในวันพฤหัสและศุกร์
ทำเนียบข่าวได้แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวแทนเจรจาของสหรัฐฯ เตรียมที่จะยืนยันข้อเรียกร้องเดิมต่อจีน โดยเฉพาะเรื่องมาตรการจัดการการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายที่บังคับให้บริษัทของสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่อบริษัทจีน
2. คำกล่าวของประธานเฟด
มีกำหนดการสุนทรพจน์โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ คำกล่าวของประธานเฟดที่อาจส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในวันอังคารนี้
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมงาน Hope Enterprise Corporation Rural Policy Forum ในรัฐมิสซิสซิปปี วันอังคารนี้ เวลา 5:45PM ET (22:45 GMT)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภค
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดิือนมกราคม เวลา 8:30AM ET (13:30 GMT) ในวันพุธนี้ ซึ่งน่าจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อว่าจะเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วมากน้อยแค่ไหน
ดัชนีราคาผู้บริโภคถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนที่ผ่านมา จากที่เคยปรับลง 0.1% เมื่อเดือนธันวาคม ขณะที่เมื่อเทียบฐานปีแล้ว ตัวเลขใหม่นี้ถูกมองว่าน่าจะขยับขึ้น 1.5% ลดลงจาก 1.9% ของเดือนก่อนหน้านี้
4. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ จะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนธันวาคมในวันพฤหัสนี้ เวลา 8:30AM ET (13:30 GMT) ซึ่งนักลงทุนหลายคนจะจับจาตามองตัวเลขดังกล่าวเหมือนเป็นสัญญาณของกำลังซื้อในหมู่ผู้บริโภค
การพยากรณ์ส่วนใหญ่มองว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากที่เคยเพิ่มมาแล้ว 0.2% เมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่หากไม่นับกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ยอดค้าปลีกนั้นถูกมองว่าจะมีตัวเลขคงที่
5. ใกล้สิ้นสุดฤดูกาลประกาศผลประกอบการ
ในสัปดาห์นี้มีบริษัทในตลาด S&P 500 จำนวนทั้งสิ้น 60 แห่งที่จะประกาศผลดำเนินงาน หลังจากบริษัทส่วนใหญ่ได้ประกาศตัวเลขไปแล้วก่อนหน้านี้
บริษัทที่จะเปิดเผยตัวเลขในวันจันทร์นี้ รวมถึง Loews (NYSE:L), Diamond Offshore Drilling (NYSE:DO), Chegg (NYSE:CHGG) และ Kemper (NYSE:KMPR)
ส่วนในวันอังคาร นักลงทุนจำนวนไม่น้อยกำลังจับตารายงานจากบริษัทอย่าง Under Armour (NYSE:UAA) ส่วนวันพุธ บริษัทที่จะประกาศผลกำไรขาดทุนนั้นรวมถึง Cisco (NASDAQ:CSCO), Teva (NYSE:TEVA), AIG (NYSE:AIG), Yelp (NYSE:YELP) และ TripAdvisor (NASDAQ:TRIP)
ขณะที่ Coca-Cola (NYSE:KO) และ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) เป็นส่วนหนึ่งของหลายบริษัทที่จะเปิดเผยผลดำเนินงานในวันพฤหัส ก่อนที่วันศุกร์ จะเป็นคิวของ PepsiCo (NASDAQ:PEP) และบริษัทอื่น ๆ เช่น Deere (NYSE:DE), Newell Brands (NASDAQ:NWL) และ Enbridge (NYSE:ENB)