รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 ปัจจัยที่ต้องจับตาสัปดาห์นี้: ข้อมูลเศรษฐกิจและการประชุมเฟด

เผยแพร่ 13/06/2564 17:23
อัพเดท 13/06/2564 17:23
© Reuters.

โดย Noreen Burke

Investing.com -- การประชุมของเฟดเป็นตัวแปรหลักสำหรับตลาดในสัปดาห์หน้า แม้จะไม่มีการคาดว่าเฟดจะดำเนินการใด ๆ แต่นักลงทุนก็เฝ้าจับตามองสัญญาณที่บ่งชี้ว่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายอาจเห็นว่าภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ต่อไปอีกนาน ในขณะที่ผลของการประชุมเฟดจะได้รับความสนใจ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลยอดค้าปลีกและราคาผู้ผลิตในสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ประเทศจีนจะเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการค้าปลีกในวันพุธนี้เช่นกัน ส่วนในอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน จะตัดสินใจในวันนี้ว่า จะเลื่อนการเปิดเศรษฐกิจแบบเต็มรูปแบบตามกำหนดการในปลายเดือนนี้หรือไม่ 

ต่อไปนี้ คือ ปัจจัยที่คุณต้องจับตาเพื่อเริ่มต้นสัปดาห์ซื้อขายของคุณ

1. การประชุมของเฟด

นักลงทุนจะมุ่งจุดสนใจไปที่คำแถลงของเฟดในช่วงท้ายของการประชุมนโยบายในวันพุธนี้ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องว่า เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอาจกดดันให้เฟดเริ่มลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดไว้

เฟดได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า การพุ่งขึ้นของราคาในระยะสั้นจะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่ยาวนาน และประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ คาดว่าจะยึดมั่นในจุดยืนนี้และให้ความมั่นใจแก่ตลาดว่านโยบายของเฟดจะยังคงเดิม

ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังคงซบเซา โดยมีตำแหน่งงานเพิ่ม 559,000 ในเดือนที่แล้วหลังจากเพิ่มขึ้น 278,000 ในเดือนเมษายน นั่นทำให้การจ้างงานลดลงประมาณ 7.6 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าตัวเลขสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2020

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหวังว่าเฟดจะเริ่มหารือเรื่องการปรับลดสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์ก่อนการประชุมประจำปีที่เมือง Jackson Hole ในปลายเดือนสิงหาคม

2. ข้อมูลเศรษฐกิจ

นอกจากการประชุมเฟดแล้ว สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและอัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิตสำหรับเดือนพฤษภาคมด้วย

ในวันอังคารยังจะมีข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมซึ่งจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางปัญหาข้อจำกัดด้านอุปทานและการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิตเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะมีรายงานเกี่ยวกับโครงการที่พักอาศัยและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ข้อมูลก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 15 เดือน ในขณะที่การเปิดภาคธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป

3. ความซบเซาในตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะชะลอตัว โดยนักลงทุนลังเลที่จะซื้อขายก่อนแถลงการณ์ของเฟดในวันพุธ เพื่อรอหาเบาะแสเกี่ยวกับตารางเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไม่ให้ความสำคัญกับราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 13 ปีในเดือนพฤษภาคม เนื่องจาก ดัชนี S&P 500 ได้ทำสถิติใหม่ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากจะทำให้เกิดการเทขายก็ตาม

หุ้นมีมอาจยังคงอยู่ในความสนใจ หลังเกิดความผันผวนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหุ้น GameStop แตะระดับสูงสุดที่ 344.66 ดอลลาร์และลดลงต่ำสุดที่ 206.13 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ก่อนปิดท้ายสัปดาห์ที่ 233.34 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นอกจากหุ้นมีมแล้ว พันธบัตรก็อยู่ในความสนใจของนักลงทุน จากอัตราผลตอบแทนที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด โดยเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่สุดในรอบ 10 ปีที่นักลงทุนจับตามองอย่างใกล้ชิด  เนื่องจากมันมีอิทธิพลต่อยอดการจำนองและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สำคัญอื่น ๆ

4. ข้อมูลเศรษฐกิจจีน

ประเทศจีนมีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคม  ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

ตัวเลขทั้งสองคาดว่าจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อน เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศยังคงซบเซา

ขณะที่ผู้ส่งออกของจีนกำลังเผชิญกับอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการผลิต ซึ่งเป็นตัวผลักดันการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจหลังเกิดวิกฤตโควิด

เศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 18.3% ในไตรมาสแรก และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่าการเติบโตจะเกิน 8% ในปีนี้

5. อังกฤษอาจเลื่อนการเปิดภาคธุรกิจเต็มรูปแบบ

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน มีกำหนดจะประกาศในวันนี้ว่า จะยกเลิกมาตรการการล็อคดาวน์ในพื้นที่ ๆ เหลือของอังกฤษ ภายในวันที่ 21 มิถุนายนได้หรือไม่

แต่จอห์นสันได้แสดง "ความกังวลอย่างยิ่ง" เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งลุกลามมาจากอินเดีย ตอกย้ำความคาดหวังว่า เขาตั้งเป้าที่จะชะลอการเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบไปอีกสองถึงสี่สัปดาห์

เมื่อวันเสาร์ อังกฤษรายงานว่ามีผู้ป่วยโควิดรายใหม่จำนวน 7,738 ราย ลดลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า แต่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

นอกจากนี้ อังกฤษจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ การว่างงาน และยอดค้าปลีกในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ



ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย