🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ศูนย์วิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยสู่ระดับต่่าสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -10.3%

เผยแพร่ 08/07/2563 09:26
อัพเดท 08/07/2563 09:35

โดย Detchana.K

Investing.com - ศุนย์วิจัยกรุงศรีเผยบทวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมหดตัวสูงต่อเนื่อง ฉุด GDP ไตรมาส 2 ทรุดแรง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดของโรค COVID-19 มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาส 2 (-100% YoY) ด้านมูลค่าส่งออกเดือน พฤษภาคมหดตัวเร่งขึ้น (-23.6%) และหากหักการส่งออกทองคำ มูลค่าส่งออกจะหดตัวสูงขึ้น (-29.0%) ตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่อ่อนแอ ส่งผลต่อเนื่องมายังกิจกรรม เศรษฐกิจในประเทศ

โดยการลงทุนภาคเอกชนติดลบสูงขึ้นที่ -12.5% สอดคล้องกับดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวแรงสุดในรอบเกือบ 9 ปี เช่นเดียวกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 ส่วนการบริโภคภาคเอกชนยังหดตัวในอัตราสูง (-12.5%) จากความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับต่่ำและกำลัง ซื้อภาคครัวเรือนอ่อนแอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากตลาดแรงงานที่เปราะบางมากขึ้น

วิจัยกรุงศรีประเมินเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รุนแรงกว่าที่ เคยคาดไว้มาก โดยอาจทำให้ GDP ในไตรมาส 2 ติดลบถึง 17% YoY (เดิมคาด กว่า 8%) ปัจจุบันแม้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยนานกว่า 1 เดือน แต่การระบาดทั่วโลกยังคงรุนแรงโดยเฉพาะกลุ่มประเทศฝั่งตะวันตก และยังมีการกลับมาระบาดรอบสองในหลายประเทศ การระงับการเดินทางระหว่างประเทศ จึงมีแนวโน้มยาวนานกว่าเดิมที่คาดไว้ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้คาดว่าจะหดตัวถึง -83% (เดิมคาด -60%) แม้หลังจากนี้อาจมีการเปิดให้ท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางก็ตาม (Travel Bubble)

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลเชิงลบนอกจากจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคท่องเที่ยวแล้ว ยังส่งผลเป็นทอดๆ ต่อไปยังหลายภาคส่วนรุนแรง กว่าคาด โดยอาจมีแรงงานไทยราว 80% (เดิมคาด 50%) ที่ได้รับผลกระทบ ในช่วงไตรมาส 2 ที่มีการระบาดหนัก และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะยังมีแรงงานที่ได้รับผลกระทบอยู่ 30% (เดิมคาด 10%) ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน

ในส่วนของผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จะทำให้ GDP ปีนี้ลดลงแรงถึง 10.6% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากความล่าช้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและปัญหาภัยแล้งซึ่งจะลดทอน GDP ปีนี้ลงอีก 1.0% และ 0.4% ตามลำดับ ส่วนปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีส่วนหนุน GDP ได้ราว 1.7% ทั้งนี้ นโยบายการเงินและ การคลังที่ประกาศออกมาอาจจะไม่เพียงพอในการยับยั้งการถดถอยของเศรษฐกิจ และอาจไม่มากพอที่จะกระตุ้นให้การเกิดการใช้จ่ายของภาค ครัวเรือนและการลงทุนของภาคเอกชน โดยรวมแล้ววิจัยกรุงศรีจึงคาดว่า เศรษฐกิจปีนี้จะหดตัวที่ -10.3% (เดิม -5.0%) เลวร้ายกว่าช่วงวิกฤตการเงินเอเชียในปี 2541

อัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนแม้ขยับขึ้นจากเดือนก่อน แต่ยังสะท้อน ความอ่อนแอของอุปสงค์ในประเทศ ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -1.57% YoY ติดลบน้อยลงจาก -3.44% ในเดือนพฤษภาคม ผลจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคา ในกลุ่มข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง (+5.52%) เครื่องประกอบอาหาร (+3.40%) และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (+1.95%) ขณะที่ดัชนีราคาในหมวดพลังงานแม้ติดลบ อยู่แต่มีอัตราที่ชะลอลง (-11.89% จากเดือนก่อน -27.38%).ตามความต้องการที่ เพิ่มขึ้นหลังมีการผ่อนคลายให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาด าเนินการ ด้าน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) ติดลบเป็นครั้งแรกใน รอบเกือบ 11 ปีที่ -0.05% จาก 0.01% เดือนพฤษภาคม ส าหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ -1.13% และ 0.32% ตามล าดับ

แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดจะกระเตื้องขึ้นจากเดือนก่อน แต่อุปสงค์ภายในประเทศยังมีความอ่อนแอสะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่หดตัว และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดเดือนมิถุนายนยังอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกท้งยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาการว่างงานและหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น

บทวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกรุงศรี

คลิ้กที่นี่เพื่ออ่านฉบับเต็ม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย