โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันอังคารที่ 2 มิถุนายนมีดังต่อไปนี้
1. เหตุการณ์ในสหรัฐทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อคืนนี้ได้เกิดเหตุประท้วงอีกครั้งหลังจากการเสียชีวิตของชายผิวสีที่ถูกจับกุมโดยตำรวจมินนิอาโปลิส โดยผลชันสูตรศพนายจอร์จ ฟลอยด์ เผยสาเหตุการเสียชีวิตที่เหมือนกันคือการฆาตกรรมแต่มีรายละเอียดการเสียชีวิตที่ต่างกัน
ผู้ประท้วงบางส่วนได้ก่อเหตุโจรกรรม และบางส่วนก็ก่อความรุนแรงต่อทั้งสื่อและกลุ่มผู้ประท้วงอย่างสันติ จึงส่งผลให้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ข่มขู่ที่จะส่งกองกำลังทหารไปยังรัฐต่าง ๆ หากผู้ว่าการรัฐนั้น ๆ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ทั้งนี้ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก นายแอนดรูว์ คูโอโม เผยว่ารัฐนิวยอร์กจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการเคอร์ฟิวอีกคืน หลังจากเกิดเหตุจลาจลอย่างเป็นวงกว้างและการโจรกรรมมากมายในพื้นที่แมตฮัตตันตอนใต้เมื่อคืนนี้ โดยการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะสร้างแรงกดดันแก่เศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายท่านเน้นย้ำมาตลอดว่าเศรษฐกิจสหรัฐต้องพึ่งพาผู้บริโภคและความเชื่อมั่นทางธุรกิจอย่างมากในการฟื้นตัว
2. จีนชะลอการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้สั่งการไปยังบริษัทผู้ประกอบการทางการเกษตรหลายรายในจีนให้ยกเลิกการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรจากสหรัฐชั่วคราว อาทิ ถั่วเหลือง ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจส่งผลเสียต่อคำมั่นที่จีนเคยให้ไว้ในข้อตกลงทางการค้า 'เฟสแรก' ที่ได้ลงนามกันกับสหรัฐไปเมื่อเดือนมกราคม
ในรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กยังระบุอีกว่า ทั้งบริษัท Cofco และ Sinograin ซึ่งเป็นบริษัทของภาครัฐต่างก็ได้รับคำสั่งให้ยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า ส่วนบริษัทอื่น ๆ ก็ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลจีนให้ยกเลิกการสั่งซื้อฝ้ายและข้าวโพดจากสหรัฐ รวมทั้งชะลอการนำเข้าเนื้อหมูอีกด้วย
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมปรับตัวขึ้นโดยไม่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าดีดขึ้น 178 จุดหรือ 0.7% ขณะที่สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าบวกขึ้น 0.6% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าขยับขึ้น 0.6%
หุ้นที่น่าจับตาในวันนี้คือ Apple (NASDAQ:AAPL) หลังจากที่ได้ลดราคาผลิตภัณฑ์ iPhone ในจีนเพื่อฟื้นยอดขายท่ามกลางการระบาด
ดูตลาดหุ้นอเมริกา https://th.investing.com/equities/americas
4. เยอรมนีนำฝั่งยุโรปสู่แดนบวก หลังมีแววออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ตลาดหุ้นเยอรมนีทำระดับสูงสุดในรอบสามเดือนและหนุนตลาดยุโรปสู่แดนบวก หลังมีรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันนี้
สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามาตรการครั้งนี้อาจใช้งบประมาณมูลค่าระหว่าง 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านยูโร (8.9 หมื่นถึง 1.11 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) และจะมุ่งเน้นช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีส่วนช่วยอุ้มตลาดแรงงานของเยอรมนีมากกว่า 12% ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางด้านสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรก็ได้เริ่มต้นการเจรจาด้านความสัมพันธ์ทางการค้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับเส้นตายของช่วงเปลี่ยนผ่านหลัง Brexit ภายในสิ้นปีนี้ โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ระบุว่าไม่ต้องการให้มีการยืดเวลาช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางธุรกิจใด ๆ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่สหราชอาณาจักรได้ถอนตัวจากสหภาพยุโรป
ดูตลาดหุ้นยุโรป
https://th.investing.com/equities/europe
5. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐจาก API ขณะที่รัสเซียและกลุ่มโอเปกเตรียมเจรจายืดเวลาลดกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มโอเปกและรัสเซียจะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีกจากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้
รัฐบาลรัสเซียจะมีกำหนดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในวันนี้ ทว่าดูเหมือนว่ารัสเซียจะต้องการยืดเวลาออกไปอีกเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในวันนี้สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) จะรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐรายสัปดาห์ในเวลาเดิม 16:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
เมื่อเวลา 6:30 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.6% เท่ากับ $36.40 ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาเบรนท์บวกขึ้น 2.9% เท่ากับ $39.42 ต่อบาร์เรล