Investing.com - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชียและเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบหกเดือน หลังรายงานข่าวระบุว่าทำเนียบขาวจะไม่ต่ออายุข้อยกเว้นให้แก่ประเทศผู้ซื้อน้ำมันจากอิหร่านอีกต่อไป จากเดิมที่เคยอนุญาตให้บางประเทศสามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ในจำนวนที่จำกัด
ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ขยับขึ้น 0.4% เท่ากับ $65.84 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 23:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (03:40 GMT) ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ของทั่วโลกก็ปรับขึ้น 0.4% อยู่ที่ $74.30 ต่อบาร์เรล เป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเช่นกัน
นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะรัฐบาลได้อนุมัติข้อยกเว้นให้แก่แปดประเทศ ซึ่งประเทศเหล่านั้นจะสามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไปแม้ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ออกมาแถลงการณ์คว่ำบาตรแล้ว
รายงานข่าวของ CNBC ระบุว่าก่อนหน้าที่จะมีการแถลงการณ์ในวันนี้ ตลาดทั่วโลกต่างก็มีความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะต่ออายุข้อยกเว้นดังกล่าวออกไปอีก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายไมค์ ปอมเปโอ ได้เผยว่า จุดประสงค์ของคณะรัฐบาลสหรัฐฯ ในการกระทำดังกล่าวคือเพื่อส่งสัญญาณเรียกร้องให้อิหร่านจัดตั้งการเจรจาข้อตกลงครั้งใหม่ เพื่อยุติการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ การทดลองปล่อยขีปนาวุธ และยับยั้งการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้าย
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาคาดหวังให้กลุ่มโอเปกยกเลิกการลดกำลังการผลิตที่ทำให้ราคาน้ำมันในปีนี้พุ่งขึ้นสูงจากเดิมเกือบ 50% แล้ว และหันมาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทดแทนอุปทานน้ำมันในส่วนของอิหร่านที่หายไป รวมถึงน้ำมันจากแหล่งผลิตในประเทศอื่น ๆ ได้แก่เวเนซูเอลาและลิเบียอีกด้วย