Investing.com - ราคาน้ำมันไต่ขึ้นในวันนี้ที่ฝั่งเอเชีย หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจไม่เรียกเก็บภาษีจากเม็กซิโก ทำให้ตลาดต่าง ๆ ได้รับแรงหนุนบางส่วน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ขยับขึ้น 0.6% สู่ระดับ $53.59 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปรับขึ้น 0.3% อยู่ที่ $62.45 ต่อบาร์เรล
ผู้ลงทุนทุกคนต่างก็รอคอยการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน และจะชี้ชะตานโยบายกำลังการผลิตน้ำมันช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทว่ารัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญที่จะช่วยหนุนราคาน้ำมัน กลับยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนว่าจะลดกำลังการผลิตต่อไปหรือไม่ จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอเล็กซันเดอร์ โนวัค ได้กล่าวไว้ว่า "จำเป็นต้องเฝ้าสังเกตสภาพของตลาดน้ำมันเสียก่อน เพื่อที่จะได้นำไปสู่การตัดสินใจอย่างสมดุลในเดือนกรกฏาคม"
ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ กลุ่มโอเปก+ สามารถหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นมาจากเดิมได้ถึง 40% จนกระทั่งช่วงปลายเดือนเมษายน ด้วยข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มที่จะลดกำลังการผลิตอย่างน้อยในอัตรา 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในระยะเวลา 6 เดือน
นอกจากนี้ การที่ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเม็กซิโกหลังได้ทำข้อตกลงร่วมกันด้านการตรวจคนเข้าเมืองทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็มีส่วนช่วยหนุนราคาน้ำมันในวันนี้อีกเช่นกัน