เงินเยนแข็งค่าขึ้นเนื่องจากความกลัวการชะลอตัวของสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่

เงินเยนญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้นยังคงมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของตลาด การเพิ่มขึ้นของค่าเงินเยนนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเพิ่มการเก็งกําไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ

เมื่อวันศุกร์ รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ รวมกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพเศรษฐกิจของจีน นักลงทุนหันมาใช้เงินสดเป็นที่หลบภัย ส่งผลให้เงินเยนซึ่งมักเป็นที่ต้องการในช่วงเวลาที่ตลาดไม่แน่นอนแข็งค่าขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดที่ 145.28 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมกราคม

เงินยูโรยังคงทรงตัวที่ 1.091 ดอลลาร์ ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์เกือบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 103.17 ดอลลาร์ออสเตรเลียลดลง 0.25% ซื้อขายที่ 0.6495 ดอลลาร์

Masafumi Yamamoto หัวหน้านักกลยุทธ์สกุลเงินของ Mizuho Securities ในโตเกียวแสดงความสงสัยเกี่ยวกับการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่สําคัญโดยเฟดในการประชุมเดือนกันยายน เขากล่าวว่า "การกําหนดราคาในตลาดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานโดยเฟดในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งฉันคิดว่าจะมากเกินไป เศรษฐกิจสหรัฐฯ กําลังแสดงสัญญาณของการชะลอตัว แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ตลาดกําหนดราคาไว้"

อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมของตลาดและระดับทางเทคนิคบ่งชี้ว่าเงินเยนอาจเพิ่มขึ้นต่อไป อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ระหว่าง 5.25% ถึง 5.50% ประธานเฟด Jerome Powell ยังบอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นความคาดหวังของตลาดสําหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ทวีความรุนแรงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลงเกือบ 40 จุดพื้นฐานในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงรายสัปดาห์ที่สําคัญที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และครั้งล่าสุดอยู่ที่ 3.79%

ตลาดฟิวเจอร์สของกองทุนเฟดกําลังกําหนดราคาในโอกาสมากกว่า 70% ของการปรับลด 50 จุดพื้นฐานในการประชุมเดือนกันยายนของธนาคารกลาง โดยคาดว่าจะมีการปรับลด 155 จุดพื้นฐานในปีนี้ และจํานวนที่ใกล้เคียงกันในปี 2025

เงินเยนแข็งค่าขึ้น 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเวลาเพียงสามสัปดาห์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 15 จุดพื้นฐานเป็น 0.25% ธนาคารยังประกาศแผนการลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนในอีกสองสามปีข้างหน้า

นักวิเคราะห์ของ Barclays ตั้งข้อสังเกตว่าสกุลเงินญี่ปุ่นมีการซื้อมากเกินไปมากที่สุดในบรรดาสกุลเงินหลัก G10 ซึ่งบ่งชี้ว่าการเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเพิ่มเติมอาจเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุ

การเทขายตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วขาดทุนอย่างมาก โดย Nasdaq Composite ประสบกับการปรับฐาน 10% จากระดับสูงสุดในช่วงต้นปี 2022 ดัชนี Nikkei ในญี่ปุ่นก็ลดลงเกือบ 5% ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

เส้นอัตราผลตอบแทนสองปีถึง 10 ปีของสหรัฐฯ กลับด้านน้อยลง โดยขณะนี้อยู่ที่ลบ 5.7 จุดพื้นฐาน ซึ่งน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความคาดหวังที่จะผ่อนคลายอัตราผลตอบแทนระยะสั้น

นอกจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจแล้ว ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดอีกด้วย ตะวันออกกลางเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการยกระดับทางทหารหลังจากเหตุการณ์ล่าสุดในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งผลักดันราคาน้ํามันสู่ระดับต่ําสุดในเดือนมกราคม กองทัพสหรัฐฯ กําลังส่งกองกําลังเพิ่มเติมในตะวันออกกลางและยุโรปเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่านและพันธมิตรฮามาสและเฮซบอลเลาะห์หลังจากการสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นําฮามาสในเตหะราน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน