เมื่อวันอังคาร Oppenheimer ได้ปรับแนวโน้มหุ้นของ Goldman Sachs (NYSE: GS) โดยเพิ่มราคาเป้าหมายของธนาคารเป็น 559 ดอลลาร์จาก 504 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า การตัดสินใจของบริษัทเป็นไปตามรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของ Goldman Sachs ซึ่งเปิดเผยกําไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 8.62 ดอลลาร์ ซึ่งต่ํากว่าประมาณการของ Oppenheimer ที่ 9.01 ดอลลาร์ แต่สูงกว่าประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ที่ 8.35 ดอลลาร์
ในรายงาน Goldman Sachs ระบุรายการพิเศษหลายอย่างที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ 0.21 ดอลลาร์ต่อรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายการที่ใหญ่ที่สุดมาจากการลงทุนหลักของ Asset and Wealth Management ซึ่ง Oppenheimer ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรายได้จากการดําเนินงาน ในทางกลับกัน ธนาคารยังมีค่าใช้จ่ายในการดําเนินคดี 104 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแปลเป็นประมาณ 0.24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งค่อนข้างชดเชยผลประโยชน์ของรายการพิเศษ
การวิเคราะห์ของ Oppenheimer ชี้ให้เห็นว่า EPS 8.62 ดอลลาร์ที่รายงานโดย Goldman Sachs เป็นภาพสะท้อนที่เชื่อถือได้ของปัจจัยพื้นฐานการดําเนินงานของบริษัท แม้ว่าจะมีรายการพิเศษต่างๆ ที่อาจถกเถียงกันก็ตาม
ความเห็นของบริษัทเน้นย้ําว่าในขณะที่การฟื้นตัวของตลาดทุนประสบกับการขึ้นและลง แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด Goldman Sachs ถูกมองว่าอยู่ในตําแหน่งที่แข็งแกร่งในการใช้ประโยชน์จากการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดการเงิน
ราคาเป้าหมายที่อัปเกรดเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของ Oppenheimer ในวิถีของ Goldman Sachs ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของตลาดที่ฟื้นตัว การประเมินของบริษัทเน้นย้ําถึงศักยภาพของธนาคารในการใช้ประโยชน์จากสภาวะที่เอื้ออํานวยในขณะที่อุตสาหกรรมการเงินนําทางภูมิทัศน์หลังการระบาดใหญ่
การปรับราคาเป้าหมายโดย Oppenheimer นี้คาดว่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุนและผู้สังเกตตลาด เนื่องจากสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับความสามารถของ Goldman Sachs ในการใช้ประโยชน์จากตําแหน่งในการบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง ตลอดจนการดําเนินงานเชิงกลยุทธ์โดยรวมเพื่อสร้างการเติบโตในไตรมาสที่จะมาถึง
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Goldman Sachs เป็นจุดสนใจของการปรับเปลี่ยนของนักวิเคราะห์หลายครั้ง Evercore ISI เพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้น Goldman Sachs เป็น 520 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงกําไรไตรมาสที่สองที่แข็งแกร่งที่ 8.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น และการคาดการณ์ในแง่ดีสําหรับกิจกรรมวาณิชธนกิจ
RBC Capital ยังเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 500 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะที่ดีขึ้นในภาควาณิชธนกิจ อย่างไรก็ตาม Wolfe Research ยังคงให้คะแนน Peerperform สําหรับ Goldman Sachs แม้ว่าบริษัทจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดไว้
การพัฒนาเหล่านี้เป็นไปตามการประกาศของ Goldman Sachs เกี่ยวกับโครงการซื้อหุ้นคืนที่ใหญ่กว่าที่คาดไว้ และการระดมทุนทางเลือกที่น่าประทับใจ 22 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง บริษัทยังดําเนินการตามแผนการลดความเสี่ยง HPI โดยตั้งเป้าที่จะลด 12.9 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026
ในการทําธุรกรรมอื่น ๆ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแคลิฟอร์เนีย Scott Peters ได้ทําการซื้อขายที่สําคัญใน Alhambra CA USD SCH และ US Treasury Bills ซึ่งทั้งคู่เชื่อมโยงกับ Goldman Sachs การเคลื่อนไหวเหล่านี้พร้อมกับการซื้อและการขายอื่น ๆ บ่งชี้ถึงการลงทุนที่หลากหลายและแนวทางที่กระตือรือร้นในการจัดการพอร์ตโฟลิโอทางการเงินของเขา
Goldman Sachs ยังได้ปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2024 ลงเหลือ 4.9% จากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 5.0% เพื่อตอบสนองต่อข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน บริษัทแนะนําว่าการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมอาจจําเป็นเพื่อสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศของจีน
สุดท้ายนี้ Goldman Sachs กําลังโต้แย้งผลการทดสอบความเครียดล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งกําหนดให้ธนาคารต้องรักษาระดับเงินทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากสินเชื่อบัตรเครดิต บริษัทกําลังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อให้มีความชัดเจนในเรื่องนี้ นี่คือการพัฒนาล่าสุดของ Goldman Sachs
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
หลังจากรายงานผลประกอบการล่าสุดและราคาเป้าหมายที่แก้ไขของ Oppenheimer สําหรับ Goldman Sachs เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมจาก InvestingPro Goldman Sachs ได้แสดงให้เห็นถึงประวัติที่น่ายกย่องด้วยเงินปันผล โดยได้เพิ่มเงินปันผลเป็นเวลา 12 ปีติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งในการคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังรักษาการจ่ายเงินปันผลไว้เป็นเวลา 26 ปีที่น่าประทับใจ ซึ่งตอกย้ําตําแหน่งในฐานะผู้แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการเงิน
จากมุมมองการประเมินมูลค่า Goldman Sachs ซื้อขายที่อัตราส่วน P/E ที่ 15.44 ซึ่งค่อนข้างต่ําเมื่อพิจารณาจากศักยภาพการเติบโตของรายได้ในระยะสั้น นี่อาจบ่งชี้ว่าหุ้นมีมูลค่าต่ําเกินไปในระดับปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยอัตราส่วน PEG ที่ 0.49 อัตราการเติบโตของบริษัทจึงมีราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสสําหรับนักลงทุนที่มองหามูลค่าในภาคตลาดทุน
นักลงทุนอาจให้ความสนใจในตัวชี้วัดผลการดําเนินงานของบริษัท เช่น ผลตอบแทนรวมของราคาในหนึ่งปีที่แข็งแกร่ง 55.43% ซึ่งบ่งบอกถึงผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตรากําไรขั้นต้นของ Goldman Sachs อยู่ที่ 83.64% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาความสามารถในการทํากําไร
ผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Goldman Sachs สามารถค้นหา เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ InvestingPro ได้ที่ InvestingPro มีเคล็ดลับเพิ่มเติม 15 ข้อ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและตําแหน่งทางการตลาดของบริษัท ในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ ให้ใช้รหัสคูปองพิเศษ PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์ Pro+
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน