“UniCredit” ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของอิตาลี ถูกสั่งให้ต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นจำนวน 144 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่พ่ายแพ้คดีต่อบริษัทเหมืองขุด crypto อันเป็นผลมาจากการที่ธนาคารได้สั่งปิดบัญชีธนาคารของบริษัทเหมืองขุด Crypto โดยไม่มีเหตุผลสมควร อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด และดูเหมือนว่าธนาคารจะออกมายื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวแล้ว ศาลแขวงในบันยาลูก้า บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ตัดสินว่า UniCredit จะต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 131 ล้านยูโร (144 ล้านดอลลาร์) หลังจากถูกฟ้องร้องคดีโดยบริษัทในเครือของบริษัทเหมืองขุดคริปโต Bitcoin Bitminer Factory อ้างอิงตามรายงานล่าสุดจากสำนักข่าวท้องถิ่น La Repubblica บริษัทลูกของ Bitminer Factory กล่าวหว่า การปิดบัญชีกระแสรายวันที่ถืออยู่ในสาขาของธนาคาร UniCredit ณเมือง Banja Luka ถือเป็นการกระทำที่ผิด ซึ่งธนาคารชี้แจงว่า การปิดบัญชีธนาคารนี้เป็นกระบวนการ “ป้องกันการเสนอขายเหรียญระดมทุนเริ่มต้น ( ICO) ที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพในภาคการขุดคริปโต สำหรับการใช้พลังงานหมุนเวียนในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา” ธนาคารอ้างอิงว่า พวกเขาจะไม่ให้ความร่วมมือกับตัวแทนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงแพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งนี่คือสถานะที่ธนาคารหลายแห่งทั่วโลกกำลังดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ดีศาลระบุว่า ธนาคารไม่ได้แสดงหลักฐานใด ๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อขัดขวางไม่ให้สถาบันการเงินเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพื้นที่ คริปโต ในขณะเดียวกัน UniCredit ดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำตัดสินดังกล่าวและมีรายงานว่าธนาคารได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้แล้ว ที่มา : cryptopotato
กดอ่านข่าว ธนาคารอิตาลีถูกปรับเงินมูลค่ากว่า 4.7 พันล้านบาทฐานสั่งปิดบัญชีเหมืองขุด Crypto โดยมิชอบ ต่อที่ Siam Blockchain