ในเรื่องคริปโตหลายคนอาจยังมองไม่เห็นมุมมองว่าประเทศไทยจะเติบโตไปในทิศทางไหนไม่ว่าจะเรื่องกฎหมาย, การศึกษา, ภาษีและการใช้คริปโตจ่ายแทนเงินสดต่างๆ ซึ่งหลายประเทศได้มีมาตรการควบคุมและออกกฎหมายเข้ามาดูแลในภาคส่วนนี้ ซึ่งในมุมมองของผู้ที่เทรดคริปโตถือเป็นก้าวที่สำคัญในอนาคต โดยทาง Siam Blockchain ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ หรือ ดร.เรือบิน ถึงความคิดและแนวทางการควบคุมกฎหมาย ภาษี การศึกษาและการใช้คริปโตในชีวิตประจำวัน เกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของตลาดคริปโตในประเทศไทย ปัจจุบันมีกฎบางอย่างที่ออกมาควบคุมคริปโตไม่ว่าจะจากธนาคารแห่งประเทศหรือ กลต. เอง ซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว คริปโตดูจะยังไม่เป็นอิสระตามเจตนารมณ์ของโปรเจกต์ซักเท่าไร ซึ่งทาง ดร. เรือบิน เองก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายไว้ว่า “กฎหมายจะต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ ทั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาของคริปโตสามารถเปลี่ยนไปได้ในหลาย ๆ รูปแบบ มันเป็นสิ่งที่อนาคต ไม่มีใครรู้ และยิ่งยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับนี้ พอเป็นเทคโนโลยี พอเป็นดีเซนทรัลไลท์เซชั่น มันเปลี่ยนกันคนละไม้คนละมือทั่วโลก ไม่มีทางที่จะมีคนวางแผนเป็น 20-30 ปีได้ คุณจะเอาแผนของเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมาใช้กับตอนนี้ มันจะพังกันหมด มันเหมือนการทำธุรกิจ ถ้าใครทำธุรกิจก็จะรู้ว่าแผนทุกวันนี้มันเปลี่ยนกันตลอดเวลา” โดยทาง ดร.เรือบินได้แบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ภาคด้วยกันคือ 1. ภาครัฐบาล 2. ภาคธุรกิจ 3. ภาคประชาชน “เป้าหมายในการเปลี่ยนอาจจะเหมือนเดิม คืออะไร ถ้าเป็นภาคอุตสาหกรรมก็อยากจะให้กำไรเติบโต ถ้าเป็นประเทศก็อยากจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและอยากจะทำให้ประชาชนมีความเหลื่อมล้ำน้อยลง หรือทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับคนที่มีโอกาส เป้าหมายอาจจะเหมือนเดิม แต่ว่า วิธีการต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปรับตามเทคโนโลยีที่เข้ามา” ซึ่งในมุมมองการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ทาง ดร.เรือบิน ยังได้กล่าวเสริมอีกว่า “กฎหมายก็เหมือนกัน ใครจะไปคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมมองว่า กฎหมายต้องเปลี่ยนแน่ แต่การจะเปลี่ยนกฎหมายมันต้องมีหลักการ อย่างเช่นเรื่องของสินทรัพดิจิทัล เราก็จะเห็นอยู่แล้วว่าแต่ละประเทศทั่วโลก ได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว อย่างเช่น ประเทศหนึ่งก็จะมีนโยบาย,กฎหมายในเชิงสนับสนุน เพราะว่าเห็นโอกาส โอกาสของประเทศ ของประชาชน ของธุรกิจของ ในขณะที่บางประเทศก็จะเป็นลักษณะ ปิดกั้น ในแนวการห้ามทำ ก็จะเห็นถึงความเสี่ยงที่ตามมา ซึ่งมันมีประเด็นทั้ง 2 แนวคิด แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หรือแนวดิดใดหัวใจสำคัญที่ทำให้ประเทศสามารถที่จะก้าวหน้าไปได้ เติบโตไปได้ ก็คือ ต้องมี sandbox mind set คือเป็นแนวคิดของนโยบายของการออกกฎหมายที่ต้องไม่จำกัดโอกาสแต่มีการจำกัดความเสี่ยงหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น 2 ข้อนี้ต้องคู่กันจะขาดข้อใดข้อหนึ่งไปไม่ได้” ถ้าหากปิดโอกาสเสียหมดจะมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ประเทศจะล้าหลังโดย
กดอ่านข่าว เผยมุมมองอนาคตเกี่ยวสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยกับ ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ต่อที่ Siam Blockchain